“วิษณุ” ชี้ ตัดบำเหน็จ-บำนาญ จะปรับลดต้องแก้กฎหมาย
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานข่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2566 ว่าวงเงินงบประมาณสำหรับเงินบำนาญข้าราชการสูงเกินไป ว่า แล้วแต่กรรมาธิการร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯจะพิจารณาอย่างไร แต่สำหรับเงินบำเหน็จ บำนาญ เป็นผลจากกฎหมายที่เขียนเอาไว้ ที่มองว่ามากไปอย่างไรนั้นก็แล้วแต่ แต่จะแปรญัตติจนกระทบกับสิทธิ์ทางกฎหมายของผู้ได้รับเงินบำเหน็จ บำนาญคงไม่ได้ เว้นแต่จะมีข้อเสนอแนะให้แก้กฎหมายก็อีกเรื่องหนึ่ง รัฐบาลคิดสิ่งเหล่านี้มาตลอดจึงยังไม่คิดเรื่องเออรี่ รีไทร์ เพราะจะเป็นภาระงบประมาณ รวมถึงความคิดเกี่ยวกับการขยายอายุการเกษียนราชการ เดิมมีการคิดก่อนจะมีสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะขยายจาก 60 ปี เป็น 63 ปี ในล็อตแรก และล็อตที่สอง จาก63 ปี เป็น 65 ปี จะทำให้ไม่ต้องจ่ายบำนาญ แต่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 จึงหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน และเรื่องนี้อยู่ในแผนปฏิรูป ยืนยันว่าวงเงินบำนาญในพ.ร.บ.งบประมาณฯยึดตามหลักเหตุผล แต่ที่มองว่าไม่สมเหตุสมผลคงต้องไปดูในเรื่องของกฎหมายที่จ่ายเงิน หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องแก้กฎหมาย เมื่อถามว่าการจ่ายเงินบำนาญตามกฎหมายก็ไม่สามารถปรับลดงบประมาณส่วนนี้ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังคิดไม่ออกว่าจะปรับลดอย่างไรที่ไม่ให้ขัดต่อกฎหมาย
“เรื่องตัดบำเหน็จ บำนาญ ที่แรกคุณพิธาพูด และอาจไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น แต่พอมีคนไปขยายความว่าจะตัด ต่อมาพรรคก้าวไกลเขาก็ออกมาแถลงว่าไม่ได้คิดจะตัด และจะตัดได้อย่าง เพราะทุกอย่างจ่ายไปตามกฎหมาย แต่ถ้าติดจะแก้กฎหมาย ก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างนั้นได้ สมมติทำราชการ10 ปี ออกแล้วได้บำเน็จ ทำราชการ 25 ปี ออกแล้วได้บำนาญ หากขยายกรอบเวลาเหล่านี้ก็แล้ว แต่ต้องไปแก้กฎหมายเสียก่อน”