“ชัชวาล ไทยสร้างไทย” ชี้ชาวนาเดือดร้อน แต่รัฐยังละเลยปัญหา มุ่งทำแต่นโยบายส่งเสริมอบายมุข ทำเศรษฐกิจถดถอย ชาวบ้านเดือดร้อน คนตัวเล็กทุกข์ยาก
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงาน นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย แสดงความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและปัญหาของเกษตรกรไทย โดยกล่าวถึงกรณีชาวนาในหลายจังหวัดกว่า 200 คนรวมตัวกันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนเดินขบวนไปยังสะพานมัฆวานรังสรรค์ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคาข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และตรวจสอบการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เนื่องจากมองว่าการบริหารจัดการผิดพลาดและไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของเกษตรกรได้
สส.พรรคไทยสร้างไทย ชี้ให้เห็นว่า “ชาวนาเดือดร้อน รัฐไม่แก้ปัญหา มุ่งแต่นโยบายที่ไม่ได้หาเสียง ขณะที่เกษตรกรและประชาชนฐานรากกำลังเผชิญปัญหาค่าครองชีพและราคาผลผลิตตกต่ำ รัฐบาลกลับเดินหน้านโยบายที่ไม่ได้อยู่ในข้อเรียกร้องของประชาชน เช่น การเปิดกาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การผลักดันพนันออนไลน์ และการออกคริปโทบอนด์ ซึ่งไม่ตอบโจทย์ปัญหาปากท้องของประชาชนและไม่ได้ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้างให้ดีขึ้น”
นายชัชวาล ระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลเดินหน้านโยบายที่ไม่ได้หาเสียงกับประชาชน ขณะที่ปัญหาของเกษตรกรและประชาชนฐานรากกลับไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในภาวะเปราะบาง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะขยายตัวเพียง 2.9% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนและทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่าโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยมีความอ่อนแอและขาดความสามารถในการแข่งขัน
นอกจากนี้ หนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูงถึง 90.8% ของ GDP ซึ่งเป็นหนึ่งในระดับที่สูงที่สุดในเอเชีย นายชัชวาล เตือนว่าหากรัฐยังคงแทรกแซงกลไกตลาดและแข่งขันลดลง จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยอ่อนแอ และเสี่ยงต่อวิกฤติการเงินในระยะยาว
แนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทย นายชัชวาล เสนอแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยดังนี้
1. ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ เปิดกว้างให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเสรี ลดการแทรกแซงของภาครัฐ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
2. ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านกายภาพและดิจิทัล รวมถึงยกระดับทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานยุคใหม่
3. ปฏิรูปธรรมาภิบาล ลดการทุจริตและปรับปรุงการบริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในระบบเศรษฐกิจ
นายชัชวาล ย้ำว่าการพัฒนาทักษะแรงงานในยุคดิจิทัลเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลมีโอกาสได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าผู้ที่ไม่มีทักษะถึง 65%
ดังนั้น รัฐควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาแรงงานไทยให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายชัชวาล ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทั้งในเรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย และความบกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดเผยความผิดพลาดของรัฐบาลต่อสาธารณะ และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS