Connect with us

Politics

“ชัชชาติ” วอนมือดี อย่ากรีดป้ายหาเสียง

Published

on

“ชัชชาติ” ชูยกระดับคุณภาพชีวิต ชาวชุมชนให้อยู่ดีกินดี วอนมือดีอย่ากรีดป้ายหาเสียง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ในนามอิสระ เดินทางลงพื้นที่หาเสียง ในพื้นที่เขตวัฒนาและปทุมวัน ภายในชุมชนมาชิม เฉลิมอนุศรณ์ และรื่นฤดี โดยชุมชนดังกล่าวอยู่ใต้ทางด่วน ใจกลางเมือง มีคลองแสนแสบตัดผ่าน บรรยากาศการหาเสียงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเสียงตอบรับและคนขอถ่ายรูปจำนวนมาก โดยวันนี้ทีมเพื่อนชัชชาติมีการนำรถ EV มาใช้หาเสียง ตามแนวคิดรักษ์เมืองที่นายชัชชาติเคยเปิดตัวไว้ รวมถึงมีการตรวจดู โครงสร้างสาธารณะต่างๆรอบชุมชน

โดยนายชัชชาติ เปิดเผยว่า ชุมชนที่มาลงพื้นที่ในวันนี้ (วันที่ 5 เม.ย.65) เป็นตัวอย่างของชุมชนที่มีปัญหา อยู่ใกล้ ใจกลางเมือง แต่ผู้ที่รับผิดชอบมองไม่เห็น เป็นชุมชนแออัด รวมแล้วกว่า 900 หลังคาเรือน มีประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า 100,000 คน และมีชุมชนแบบนี้กระจายอยู่ทั่ว กทม. มองว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนสำคัญที่ขับเคลื่อนเมือง เช่น แม่บ้านตามห้างสรรพสินค้า พนักงานในร้านค้าต่างๆ จากการลงพื้นที่เห็นได้ชัดว่าปัญหาอันดับหนึ่งคือเรื่องเศรษฐกิจ มีคนตกงานจำนวนมาก แม้แต่ประธานชุมชน ต้องเปลี่ยนอาชีพมาขายลอตเตอรี่แทน ซึ่งตนตั้งคำถามว่า กทม.สามารถช่วยเหลืออย่างไรได้บ้างในแง่ของการสร้างงาน โดนตนมองว่า กทม. เปรียบเสมือนโซ่คล้องตรงกลางระหว่างโอกาสและประชาชน เป็นตัวเชื่อมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้

นายชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่อยู่อาศัยในชุมชน ตนมองว่ามีหลายชุมชนที่ไม่ได้จดทะเบียน แม้ กทม. จะไม่มีหน้าที่โดยตรงเรื่องการจัดการที่อยู่อาศัย แต่สามารถร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม.ได้ หรือชุมชนริมทางรถไฟ ตนเห็นเด็กเล็กหลายคนวิ่งเล่น ซึ่งมองว่าไม่มีสุขลักษณะที่ดี หากมีสวนขนาดเล็กให้เด็กเล่น อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กเหล่านี้ได้ มองว่าเป็นการสูญเสีย ช่วงเวลาที่ดีสำหรับชีวิตของเด็กๆ ดังนั้น กทม. ต้องเข้ามาเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้ว มั่นใจยกระดับชีวิตของชาวบ้านได้จริงหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า เท่าที่สังเกต กทม. ไม่ได้คิดว่าเป็นอำนาจหน้าที่ เพราะเป็นงานของ พม. แต่ที่จริงแล้วตนมองว่า กทม. ต้องเป็นเจ้าภาพ พร้อมระบุว่า “มันง่ายที่จะไม่คิดถึงเขา แต่ถ้าเราคิดถึงเขา มันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตเขาได้” ที่สำคัญคือต้องช่วยเหลือในแง่ของการให้ความรู้ให้ชาวบ้านสามารถเลี้ยงตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ประชาชนในชุมชนค่อนข้างเก่ง สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยทรัพยากรจำกัด อย่างชุมชนก่อนหน้าที่เพิ่งลงพื้นที่ ต้นได้พบกับเด็ก ม. 4 ซึ่งขายของอยู่ริมทางรถไฟ ต้องช่วยพ่อแม่ ในขณะเรียนหนังสือได้ที่ 2 เกรดเฉลี่ย 3.96 มองว่านวัตกรรมต่างๆที่นำมาช่วยเหลือ มาจากนวัตกรรมชีวิต ในการหาทางรอด รอเพียงแค่ภาครัฐมาช่วยเหลือ อาจจะไม่ได้ดีขึ้น 100% แต่เชื่อว่าสามารถพัฒนาได้

เมื่อถามว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จะสามารถพัฒนาชีวิตของคนในชุมชนได้กี่เปอร์เซ็นต์นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า คงตอบยาก แต่เชื่อว่าจะมีการพัฒนาขึ้นในด้านใดด้านหนึ่ง

นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงประเด็นป้ายหาเสียง ที่ผู้สมัครหลายคนเริ่มเปลี่ยนขนาดป้ายให้เล็กลง ว่า ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้บอกว่าเป็นคนริเริ่มคนแรก ตนเห็นจากป้ายหาเสียงในต่างประเทศมองว่าประหยัดเงินได้ดี ขออย่าดราม่า หากประชาชนชอบ ก็เพียงทำตามที่ประชาชนต้องการ ตนมองว่าต้องตั้งคำถามว่า สิ่งที่ทำต่อๆกันมาถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่ผู้สมัครคนอื่นเริ่มลดขนาดป้ายตนก็ยินดี ส่วนกรณีมีการทำลายป้ายผู้สมัครบางคนนั้น ขอเตือนว่าอย่าทำ เพราะยิ่งทำให้ขัดแย้งกันมากขึ้น การกรีดป้ายไม่ได้เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ กทม.มีกล้อง CCTV หากเอาจริงก็น่าจะตรวจสอบได้ว่าใครทำ ทั้งนี้ในส่วนของตนไม่มีป้ายเลยไม่โดน

นายชัชชาติ ยังยืนยันว่า ยังสุขภาพแข็งแรงดี แม้เสียงแหบไปบ้าง แค่หิวน้ำ แต่เสียงไม่ค่อยดี ส่วนประเมินให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่หลังจากลงหาเสียงในพื้นที่ นายชัชชาติตอบว่าต้องให้คนอื่นเป็นคนประเมิน ส่วนตัวต้องขอบคุณทีมงาน ยืนยันว่า ทำเต็มที่แล้ว

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: