ชี้ชัด!! คณะกรรมการกลั่นกรองคดี​ มาตรา​ 112​ คือ​ ผู้เชี่ยวชาญคดีที่มาช่วยตำรวจ​ ตีความกม.!!

คนตกเป็นผู้ต้องหาในคดี​ ม.112​ จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตีความ​ผู้ที่ทำผิดหรือไม่ผิด เหตุไม่มี​ คณะกรรมการกลั่นกรองคดี​ มาตรา​ 112

ผู้​สื่อข่าว​โต​โจ้​นิว​ส์ราย​งานว่า​ เพจเฟซบุ๊กดำรงค์ นาวิกไพบูลย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า เห็น อาจารย์อานนท์ Arnond Sakworawich แย้งเรื่องที่ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เสนอให้มีการตั้ง “คณะกรรมการกลั่นกรองคดี มาตรา 112” แล้ว อืมมมมม โดยหลักการที่อาจารย์อานนท์พูดนั้น “เหมือนจะ” เป็นหลักที่ถูกต้อง

แต่ความจริงแล้ว ในอดีต มีผู้เดือดร้อนจากการใช้มาตรา 112 ในทางที่ผิดจริง เล็กๆ เมียโกรธผัว แล้วไปแจ้งความกล่าวหาผัวว่า ละเมิดมาตรา 112 ไปจนถึงการถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง คุณ สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ว่าแกจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้เลยก็คือ คุณสนธิ เป็นผู้ที่จงรักษ์ภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และต่อสู้เพื่อสถาบันอย่างแน่นอน แต่คุณสนธิ เคยถูกฟ้องร้องว่ากระทำผิดตามมาตรา 112 (ภาพ 2) และเพราะตอนนั้น ไม่มีคณะกรรมการกลั่นกรอง คุณสนธิ ถึงต้องต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมถึง 3 ศาล กินเวลาต่อสู้ยาวนานถึง 7 ปี ทำไมคนดีที่จงรักษ์อย่างคุณสนธิต้องไปขึ้นศาลด้วย ?

มาตรา 112 เป็นมาตราที่ไม่ค่อยจะถูกสอนในคณะนิติศาสตร์ ดังนั้น เอาเข้าจริงแล้ว นี่เป็นมาตราที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง “น้อยมาก” เมื่อมีคนถูกฟ้องในมาตรา 112 เจ้าหน้าที่ตำรวจล้วนแต่ปวดหัว เนื่องจากตีความไม่ถูกว่าควรจะสั่งฟ้องหรือไม่ อย่างไร เพราะขาดความเข้าใจในมาตรา 112 นั่นเอง

“คณะกรรมการกลั่นกรองคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112” ที่อรรถวิชช์เสนอ คือการเรียกตัว “ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง” เข้ามา ทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษา” ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดี ตรงนี้ จะเห็นได้จาก หนังสือราชการที่ ยธ.0101/9333 เรื่อง “ข้อเสนอแนะจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112” ย่อหน้าที่ 1 บรรทัดที่ 8 – 11 (ภาพ 3) ว่า “ให้มีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณากลั่นกรองคดี ให้คำปรึกษา […] เพื่อ ใช้ประกอบดุลยพินิจในการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ”

ดังนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า คณะกรรมการดังกล่าว มีหน้าที่ให้คำปรึกษา และใช้ประกอบดุลยพินิจ เท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจแทรกแซงแต่อย่างใด และคณะกรรมการดังกล่าวนั้น จะมีหน้าที่ในการ “รวบรวมคำพิพากษาคดี ม.112 ในอดีต” มาใช้ในการพิจารณาอ้างอิงประกอบอีกด้วย

หันกลับมามอง คดี ม. 112 ที่คุณสนธิถูกฟ้อง คุณสนธิ ชายผู้จงรักษ์ภักดีในสถาบันอย่างเต็มเปี่ยมนั้น แพ้คดีในศาลอุทรณ์ พิพากษาจำคุก 2 ปี พลิกกลับมาชนะใน ศาลฎีกา เรื่องแบบนี้ ควรเกิดขึ้นกับคนรักสถาบันเหรอ ???และแน่นอนว่า คำพิพากษาคุณสนธินั้น จะถูกนำมาใช้อ้างอิงในการพิจารณากลั่นกรองคดี ภายใต้คณะกรรมการกลั่นกรอง ที่คุณอรรถวิชช์เสนอขึ้นมาอย่างแน่นอน

นี่คือสาเหตุที่ว่า ทำไม ทั้งคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. ยุติธรรม และ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ล้วนแต่พยักหน้าเห็นชอบ และคุณสนธิเอง ก็คงจะยินดี ที่การต่อสู้ของแก จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ภายใต้คณะกรรมการกลั่นกรองคดีนี้ ด้วยสาเหตุนี้เอง ผมจึงขอสนับสนุนการจัดตั้ง คณะกรรมการกลั่นกรองคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112