ชัยธวัช เผย หลังถูกตั้งคำถาม หากพรรคลุงเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคกัาวไกล เปิดเผยว่า เรื่องการโหวตเราได้มีการประชุมส.ส.กัน และเปิดให้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่โดยในวันที่ 3 ส.ค.นี้ น่าจะมีการสรุปเป็นมติของพรรคอีกที
เมื่อถามว่า จากนี้ไปการทำงานกับพรรคเพื่อไทยจะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยพร้อมจะผลักดันกฎหมายสำคัญที่เคยคุยไว้ใน MOU นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจว่า MOU ไม่มีอีกแล้วทั้ง MOU จาก 8 พรรค และ MOU ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ตอนที่เลือกประธานสภา ซึ่ง MOU ฉบับหลังส่วนสำคัญคือที่เคยตกลงกันว่าจะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพและการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ซึ่งไม่มีอีกแล้ว
อย่างไรก็ตามในฐานะ สส.เราก็จะสามารถเสนอร่างกฎหมายและเสนอแนะมาตรการต่างๆที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้โดยหวังว่าสส.แม้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกันหากพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหวังว่าสส.ฝั่งรัฐบาลจะเห็นชอบด้วย
เมื่อถามว่า วันนี้พรรคก้าวไกลประกาศชัดหรือไม่ว่าจะสามารถเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่จบอย่างเป็นทางการ อย่างที่แถลงไปแล้วพรรคก้าวไกลไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็จะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรให้ดีที่สุดเพื่อผลักดันนโยบายของเราผ่านสภา ที่ผ่านมาในการเป็นฝ่ายค้านในสมัยที่แล้วแม้ว่าร่างกฎหมายของพระก้าวไกลจะไม่เคยผ่านสภา แต่ในสมัยนี้หวังว่าน่าจะมีหลายฉบับผ่านถ้าพักรัฐบาลมองว่ามีประโยชน์ต่อส่วนรวม
เมื่อถามอีกว่าใน 8 พรรคร่วมจะมีพรรคไหนที่จะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไปอยู่กับพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ทราบ เข้าใจว่าวันนี้แกนนำของพรรคเพื่อไทยได้แจ้งผลการพูดคุยกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเป็นรายพรรคไปแล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าแต่ละพรรคมีท่าทีอย่างไรบ้าง
เมื่อถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกับ 5 พรรคการเมือง แต่สุดท้ายไม่ได้มีข้อตกผลึก บอกว่าพรรคเพื่อไทยให้เกียรติพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายชัยธวัชย กล่าวว่า ตนคิดว่าเหตุผลที่แท้จริงเรื่อง 112 เป็นเพียงแค่ข้ออ้างฝ่ายการเมืองจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มอำนาจเก่าไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล และหลายพรรคที่เคยแถลงร่วมกับพรรคเพื่อไทยก็พูดชัดเจนว่าไม่ต้องการที่จะร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลเพราะอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามถึงความรู้สึกของพรรคก้าวไกล ในขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง ว่า ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ซึ่งเราได้เคยพูดแล้วว่าปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยในยุคสมัยนี้ คืออำนาจสูงสุดไม่ใช่ของประชาชน ซึ่งคงเป็นภารกิจของพวกเราที่จะผลักดัน เปลี่ยนแปลงอย่างสุดความสามารถ ให้การเมืองไทยกลับมาสู้ความปกติ ที่เสียงและอำนาจของประชาชนสำคัญที่สุด
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยมีการรวมเสียงกับพรรคของสองลุง พรรคก้าวไกลจะมีท่าทีอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลแล้ว เพราะตอนนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกลแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่สส.หลายคนของพรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่าอยากให้ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จับมือกันอยู่ จะต้องมีการทำความเข้าใจกับสส.ของพรรคหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ แต่หาก 8 พรรคจับมือกันแน่น เราก็ไม่เชื่อว่า จะเกิดการพลิกขั้วรัฐบาลได้ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยตัดสินใจออกจากเอ็มโอยูแล้ว การจัดตั้งรัฐบาลคงจะเป็นอีกแบบหนึ่ง
เมื่อถามว่า หากพรรคลุงเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก พรรคที่ไม่ถูกเลือกให้ร่วมรัฐบาลก็ต้องมาเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีใครมีสิทธิเลือกซึ่งกันและกัน ไม่มีการจับขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า ใน 8 พรรคร่วมรัฐบาลมีพรรคใดบ้างที่จะร่วมเดินทางด้วยกันหลังจากนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับพรรคอื่นเลย
เมื่อถามว่า มีการประเมินไหมว่า หากเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ หรือจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน แล้วยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ก่อนครบวาระ 4 ปี นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าถ้ารัฐบาลใหม่สามารถผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญใหม่ ผ่านทาง สสร.ได้จริงๆ การเลือกตั้งก็น่าจะเกิดขึ้นหลังจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญใหม่ไม่นาน และเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลพร้อมจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการตั้งสสร. ตามที่พรรคเพื่อไทยแถลงใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายๆพรรคก็ผลักดันอยู่แล้ว และเราคาดหวังว่าการจัดทำประชามติเพื่อให้มีสสร. เข้ามาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นวาระเร่งด่วน หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ
#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS