Connect with us

Politics

จับตา! ซื้อเรือดำน้ำ เสียค่าโง่ ใช้งานไม่ได้

Published

on

“พิจารณ์” ห่วงรัฐบาลเสียค่าโง่หมื่นล้าน ซื้อเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ วาระแรกในชั้นรับหลักการต่อเป็นวันที่ 3 นั้น นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี2566ให้กระทรวงกลาโหม 197,293ล้านบาทว่า เห็นงบกระทรวงกลาโหมบอกได้ 3คำคือไม่คุ้มค่า ไม่ตอบโจทย์ ไม่โปร่งใส แม้งบภาพรวมการจัดซื้ออาวุธลดลง แต่งบบุคลากร จำพวกเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง สวัสดิการต่างๆ เพิ่มจาก 45% เป็น54% โดยเฉพาะกองทัพบกเพิ่มจาก 52% เป็น62% รวมแล้วกว่า 19,000ล้านบาท เพราะมีนายพลมากเกินไป โดยเฉพาะงบทหารเกณฑ์มีความจำเป็นอย่างไรถึงลดไม่ได้ เพื่อไปพัฒนางานด้านอื่นของกองทัพ ส่วนการจัดซื้ออาวุธของกองทัพก็ยังน่าสงสัย อย่างกองทัพเรือที่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พูดไม่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ถ้าหาไม่ได้ก็ยกเลิกแล้วหาใหม่ เกรงว่า จะเสียค่าโง่หรือไม่ เพราะการซื้อเรือดำน้ำมีการก่อสร้างอื่นเกี่ยวข้องมากมายอีกเกือบหมื่นล้านบาท อาทิ เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมบำรุง ทุกอย่างดีไซน์มาเฉพาะรุ่นที่จะจัดซื้อ ไม่ใช่จะไปใช้เครื่องยนต์อื่นแล้วจะเอามาใช้กับการก่อสร้างอื่นๆได้ และเริ่มเซ็นสัญญาจ่ายเงินให้เอกชนไปบางส่วนแล้ว ถ้าเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ เงินที่ลงทุนไป 10,000กว่าล้าน จะถือเป็นค่าโง่หรือไม่

นายพิจารณ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีงบขุดบ่อบาดาลของกองบัญชาการกองทัพไทยมากถึง 44% ของงบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถามว่าการขุดบ่อบาดาลเป็นหน้าที่หลักของกองทัพหรือไม่ ไม่รู้มีไว้เพื่อสร้างบุญคุณให้ประชาชนหรือไม่ ทำไมไม่กระจายงบนี้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ดำเนินการแทน นอกจากนี้งบที่น่าสงสัยอย่างค่าใช้จ่ายสนับสนุน ส่งกำลังบำรุง ซ่อมบำรุง และผลิตเพื่อแจกจ่าย ที่มีอยู่ในทุกหน่วยงานของกองทัพ เขียนรายละเอียดของบแค่บรรทัดเดียว แต่ของบ 6พันล้านบาท ไม่บอกรายละเอียดอะไร ความโปร่งใสต้องมี เช่นเดียวกับเงินนอกงบประมาณกองทัพที่ไม่เคยเปิดเผยมีรายได้เท่าใด ทั้งโรงแรม สนามกอล์ฟ ปั้มน้ำมัน สนามมวย รายได้เหล่านี้ไปอยู่ที่ใด

“ขอฝากไปยังสมาชิกฝั่งรัฐบาลว่าเราพิจารณางบปี 2566 ถ้าผ่านไปดูเหมือนว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ยาว ดังนั้นวันนี้เราไม่ได้พิจารณาแค่ปีงบประมาณเดียว ถ้าผ่านปีนี้ไปงบประมาณปี 2567 ถึงแม้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาแต่ทำงบปี 2567 ไม่ทัน จึงของวิงวอนต่อเพื่อนสมาชิกว่าหยุดประยุทธ์ วันนี้อย่าปล่อยให้ชาติ ต้องเสียโอกาสไปอีก 2 ปีงบประมาณ” นายพิจารณ์กล่าว

จากนั้นพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม กล่าวชี้แจงว่า การจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมยืนยันยึดแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิบัติการของกระทรวงที่ต้องเตรียมพร้อมกำลังพลในการปฏิบัติภารกิจ สำหรับการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมนับแต่ปี 2563 จนถึงปี 2566 ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี และปรับลดลงเกือบทุกรายการของแผนงาน ส่วนแนวทางการเตรียมกำลังด้านยุทโธปกรณ์ เตรียมเท่าที่จำเป็น ทุกเหล่าทัพตระหนักถึงศักยภาพทางการเงินการคลังของประเทศและเศรษฐกิจในปัจจุบัน ก็ยังคงสร้างความพร้อมให้กับกองทัพเพื่อรองรับกับสถานการณ์ตามอำนาจหน้าที่ โดยเน้นซ่อมปรับปรุงยืดอายุการใช้งาน หาใหม่เท่าที่จำเป็น พร้อมกับให้ความสำคัญในการวิจัยพัฒนายุทโธปกรณ์ สำหรับความต้องการเครื่องบินขับไล่ มีคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อคัดเลือกแบบเพื่อให้ตรงกับความต้องการ ให้ตรงกับการปฎิบัติภารกิจของกองทัพ เหตุผลในการจัดหาเพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่โจมตีที่ใช้มานานบางเครื่อง 41 ปี ที่จะมีเครื่องที่ปลดประจำการไปเรื่อยๆจนถึงปี 2574 และแบบมีการคัดเลือกใกล้เคียงกับที่แบบกองทัพใช้อยู่ในปัจจุบัน

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับของกองทัพเรือ นายกรัฐมนตรียังให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ยึดกรอบกฎหมาย ผลประโยชน์ของกองทัพและของชาติเป็นสำคัญ มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจะซื้อซึ่งกำหนดคุณสมบัติเป็นการเฉพาะตามของต้องการทางยุทธการ การลาดตระเวนน่านน้ำ คัดเลือกใช้เกณฑ์ราคาและเทคนิคเป็นคะแนน แบบที่กองทัพอากาศจัดหาเป็นคนละรุ่นกับแบบที่มีข่าวว่าตกที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ เป็นไปตามกฏหมาย ส่วนกรณีที่ประเทศจีนไม่สามารถจัดหาเครื่องยนต์ที่กำหนดไว้ในสัญญา กองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจได้ประสานและเชิญผู้แทนบริษัทผู้ผลิตร่วมหาทางออก โดยจะต้องดำเนินไปตามสัญญาและข้อตกลง ในเดือนมิถุนายนนี้ทางบริษัทผู้ผลิตจะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาประสานงานกับกองทัพเรือ กองทัพเรือจะยึดถือผลประโยชน์ตามกฏหมายผลประโยชน์ของกองทัพและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ

ส่วนกรณีที่ตั้งคำถามว่าในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เหตุใดกองทัพเรือถึงเข้าไปดำเนินการด้วยนั้น พล.อ.ชัยชาญชี้แจงว่าในการพัฒนาพื้นที่ สนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติ ที่เคยในด้านความมั่นคง และอนาคตจะปรับเป็นเชิงพาณิชย์ด้วย คณะกองทัพเรือเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยและป้องกันภัยสนามบิน ใช้ประโยชน์ในที่ดินบริเวณโดยรอบสนามบินอู่ตะเภา ด้วยการประสานงานจะทำให้โครงการประสบผลสำเร็จ ไม่ให้มีปัญหาข้อขัดข้องใด ก็จะมีการย้ายบางหน่วยงานที่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน-เส้นทางผ่าน ทางรถไฟความเร็วสูง สำหรับกรณีเงินนอกงบประมาณ ของกระทรวงกลาโหม หลักๆจะเป็นเงินรายรับของสถานพยาบาล ซึ่งจะมีระเบียบวิธีการการตรวจสอบและการรายงานการใช้จ่าย สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้ใช้เงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และมีแนวทางการปรับลดกำลังพลโดยมีแผนแม่บทการปฏิรูปกองทัพปี 2560 ถึง 2569 ในช่วง 10 ปี ร้อยละ 5 หรือ 12,000 คน โดยจะลดงบประมาณได้ 2100ล้านบาท อาจจะใช้ระยะเวลาเนื่องจากกำลังพลไม่สามารถที่จะปลดได้ วิธีดำเนินการคือการเกษียณ และบรรจุทดแทนน้อยลง

“เรื่องของการเตรียมพัฒนาศักยภาพและเตรียมกำลังของกองทัพเพื่อรองรับสถานการณ์ ความมั่นคง ไปใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด มีสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี สถานการณ์รัสเซียยูเครน ปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ในทะเล หรือการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะดินแดน รวมถึงการพิทักษ์รักษาสถาบันหลัก ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ ป้องผลประโยชน์ชาติดูแลประชาชน และพัฒนาประเทศ ไม่ได้เตรียมกำลังเพื่อไปรบกับใคร แต่เป็นการป้องกันตนเอง ก่อนจะยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าโดยคำนึงถึงประโยชน์ของชาติเป็นหลัก” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: