“อนุดิษฐ์” ชี้ “ทร.” ส่อพิรุธ มีเงินทอน ซื้อ เมล์ ยูเอวี พันล้าน หลังจัดซื้อแบบไม่ติดอาวุธ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ในวาระรับหลักการต่อเป็นวันที่ 2 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ในส่วนของงบกระทรวงกลาโหม ปี2565 กองทัพเรือ เสนอการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่ง (MALE UAV) ปี 2565 กำหนดวงเงินจัดซื้อ จำนวน 4,070 ล้านบาท โดยกำหนดทีโออาร์ชัดเจนว่า มียูเอวี 3 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง เช่น ระบบอาวุธ, สถานีควบคุม (กราว คอนโทรล) แต่มีเพื่อนของตนจากกองทัพเรือแจ้งว่า การจัดซื้อดังกล่าว มีเพียงตัวยูเอวี และระบบควบคุมไม่ติดอาวุธด้วย ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ทีโออาร์ระบุ ยูเอวี ติดอาวุธ แต่ก่อนที่ทีโออาร์จะประกาศใช้ มีเสี่ย ชื่อสองพยางค์ ที่ใกล้ชิดกับ บิ๊กในกองทัพ วิ่งเต้นให้แก้ไขทีโอาร์ ให้ซื้อยูเอวี แบบไม่ซื้ออาวุธ เพราะบริษัทที่มีชื่อสามพยางค์ ไม่สามารถเสนอราคาอาวุธมาได้ เพราะบริษีทผู้ผลิตอาวุธที่เสี่ยเป็นตัวแทนไม่สามารถขายอาวุธให้กับประเทศไทยได้
น.อ.อนุดิษฐ์ อภิปรายกล่าวว่า ปลายทางเรื่องนี้กองทัพเรือจะได้ยูเอวีที่ติดอาวุธ แต่ไม่ซื้ออาวุธติดตั้ง อย่างไรก็ตามตนทราบมาว่าบริษัทที่ขายยูเอวีที่ไม่ได้ติดอาวุธ จะเพิ่มจำนวนให้อีก 4 เครื่อง รวมเป็น 7 เครื่อง และลดราคาให้ 1,000 ล้านบาท เหลือ 3,000 ล้านบาท
การลดราคา หรือเพิ่มจำนวนให้ไม่ใช่ประเด็น แต่สำคัญคือ หากยูเอวีไม่ติดอาวุธ จะเป็นปัญหา ไม่สามารถสู้รบได้ ทั้งนี้การจัดหาครั้งนี้อย่าชี้แจงว่าประหยัดงบประมาณประเทศ แต่คนในกองทัพเรือบอกว่าเงินภาษีประชาชน หล่น 1 ตัน ผมขอแจ้งให้นายกฯ ในฐานะรมว.กลาโหม ทราบว่า การซื้อยูเอวี 7 ลำไม่ติดออาวุธ มีราคาจริง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่จัดซื้อ 3,000 ล้านบาท ถือว่าโครงการนี้มีเงินทอน ทั้งนี้มีเอกสารจากสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ระบุว่าสามารถจัดหายูเอวี แบบไม่ติดอาวุธได้ 2,000 ล้านบาท