“พงศ์พรหม” ซัด! กทม.ใช้งบผิดทาง “Water Bank” ไม่ช่วยลดปัญหาน้ำท่วม

“พงศ์พรหม” เผย ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงจนก่อความเสียหายหลายพื้นที่ ชี้ กทม. ไม่ควรทุ่มใช้งบสร้าง Water Bank เพื่อแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวโตโจนิวส์รายงานว่า วันที่ 1 มี.ค.65 พงศ์หรหม ยามะรัต โพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัว Pongprom Yamarat ปมปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงจนเกิดน้ำท่วม ระบุว่า

ข่าวนึงที่สังคมอาจไม่สังเกตเห็น โดยเฉพาะคนกรุงเทพ-สมุทรปราการ-นนทบุรี

คือปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงผิดปกติมาแล้วหลายปี

ปี 2564 ที่ผ่านมา เราจับปลากระพงทะเลได้ที่นนทบุรี-ปทุมธานี

รวมถึงเกษตรนนทบุรีเสียหายหนัก เพราะเจอน้ำทะเลหนุนเข้ามาผิดปกติ

หมอแม็บ Kantapong Dechaiya ชวนผมไปดูปัญหานี้ด้วยตัวเอง

สิ่งนี้คือคำเตือนของวิกฤติ Climate Change ที่น้ำทะเลจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

ลองนึกภาพปกติฝนตกหนัก

ไทยเราชินกับการเอาน้ำจำนวนมหาศาลนี้ระบายทิ้งอ่าวไทย

เอาใหม่

น้ำในอ่าวอยู่ในช่วงทะเลหนุน ระบายไม่ไป

กรุงเทพ-สมุทรปราการ-นนทบุรี จะกลายเป็น “บ่อปลา” ทันที

เหมือนวิกฤติอุทกภัยปี 2554

ในหลวง ร.9 ถึงพยายามเร่งให้สร้าง “แก้มลิง” ล้อมกรุง เพื่อชะลอปัญหา “บ่อปลา” นี้

หลังยุคที่ ร.9 พยายามเร่งทำ

ปัจจุบันแก้มลิงยังทำไปไม่ถึงครึ่งจากที่ “ต้องรีบทำ” 

เพราะมัวแต่ “แห่” ไปทำ “water bank” ใต้ดินแพงๆที่จัดการน้ำได้แค่ “ขี้มูก” แถมผลิตน้ำเน่ามหาศาล (น้ำเน่าเยอะ ก็ต้องตั้งงบซื้อเครื่องบำบัด เผางบกันไป)

แก้มลิงบนดินตามแนวทาง ร.9 เหล่านี้จะลดปัญหาน้ำท่วมให้บริเวณใกล้เคียงได้ทันที แถมยังมีน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และเป็นแหล่งออกกำลังกาย ทำเกษตร แหล่งฟอกอากาศท้องถิ่นได้อย่างดี

ในภาพ ผมทำจุดสีน้ำเงิน เป็นแก้มลิงขนาดกลาง-ใหญ่ เชื่อมระบบคลองรอบกรุงเทพ-สมุทรปราการ-นนทบุรี

สีเขียว เป็นแก้มลิงขนาดกลาง-เล็ก กระจายตามระบบคลองตอนในของกรุงเทพ-สมุทรปราการ-นนทบุรี

สิ่งนี้ใช้งบน้อย พึ่งความเสี่ยงทางวิศวกรรมต่ำ (แบบที่สะพานอ่อนนุชพัง เพราะมีบ่ออยู่ด้านใต้) และทำได้เร็ว

ฝาก กทม.ว่า

ช่วยอย่ามุ่งแต่จะสรรหาโครงการโยธาระบายน้ำแพงๆ ที่จัดการน้ำได้ในปริมาณที่ต่ำมาก

ผมไม่ได้บอกว่า water bank ใต้ดินไม่ควรมีนะครับ 

แต่พวกคุณเร่งใช้งบผิดทาง

คุณควรมุ่งใช้งบน้อย เพื่อจัดการน้ำในปริมาณที่สูงดีกว่า

แล้วค่อยไปใช้งบเยอะๆในจุดเล็กๆภายหลัง