นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เผยว่าในการไต่สวนที่เข้ารับในวันนั้น บรรยากาศในห้องศาลเป็นไปตามที่เขาคาดหวังและพอใจ ได้รับการไต่สวนตามข้อเท็จจริงที่ตั้งใจและรู้สึกพอใจกับกระบวนการที่มีอยู่ ส่วนรายละเอียดที่เปิดเผยนั้นมีการจำกัดเนื่องจากเป็นเรื่องที่อาจกระทบต่อคดีและศาล ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยได้
ในขณะที่ถูกร้องว่าถือหุ้นในบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง นายพิธายืนยันว่าเป็นการถือแทนในฐานะผู้จัดการมรดก และได้สละเจตนาตั้งแต่ก่อนอยู่พรรคอนาคตใหม่ และมีการปันทรัพย์มรดกกันนายพิธามั่นใจว่าได้ทำตามหน้าที่ในฐานะผู้ถูกฟ้องอย่างเต็มที่ และยืนยันว่ามีความมั่นใจที่จะได้รับความยุติธรรมหลังจากการไต่สวนนี้เสร็จสิ้น
ถึงแม้จะไม่มีคาดหวังอะไรเป็นพิเศษต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่นายพิธามั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมและความยุติธรรม นายพิธาหวังว่าจะได้กลับไปทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทันทีนอกจากนี้ นายพิธากล่าวถึงถามว่าเขาได้ถือหุ้นไอทีวีไว้หรือไม่ก่อนที่จะสมัครเลือกตั้ง นายพิธาระบุว่าได้ถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก แต่รายละเอียดเพิ่มเติมต้องดูที่นายคิมห์ สิริทวีชัย ผู้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่ได้มีการพูดคุยกันในการประชุม
นายพิธากล่าวถึงว่าไอทีวีได้ยุติการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 50 และปัจจุบันไม่มีใบอนุญาตและถ้าจะกลับมาประกอบกิจการได้จำเป็นต้องดูที่นายคิมห์ ที่ได้มีการพูดคุยกันในการประชุมผู้ถือหุ้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของผู้จัดการมรดกนั้น จะต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลแพ่ง ส่วนที่เหลือที่เป็นการปันทรัพย์ จะมีการส่งข้อมูลทางดิจิทัลที่สามารถเห็นได้ ทำให้เห็นว่าฝ่ายที่ถูกร้องว่าถือหุ้นได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่ และเรื่องของแสตมป์อากรจะได้รับคำชี้แจงเพิ่มเติมที่ศาลแพ่ง
อย่าลืมกดติดตามข่าวสารจาก Tojo News
https://today.line.me/th/v2/publisher/102232