กระทรวงสาธารณสุข ระบุ ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 26 ต.ค.65 พบคนป่วยโรคฉี่หนูหรือ โรคเลปโตสไปโรสิส ในทุกภูมิภาค รวม 2,494 ราย เสียชีวิต 28 ราย และกำลังเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียโดยมีสัตว์เป็นพาหะขับถ่ายปนเปื้อนในน้ำ เมื่อผู้มีบาดแผลไปลุยน้ำ ลุยโคลนสัมผัสเชื้อก็จะเกิดการติดเชื้อได้ ทำให้พบผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงฤดูฝนหรือหลังน้ำท่วมขัง
ผู้ป่วยจะมีอาการหลักๆ คือ ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ บางรายตาแดง หากมีประวัติลุยน้ำมา แพทย์ก็จะวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นโรคฉี่หนู หากมาพบแพทย์เร็วได้รับการรักษา รับประทานยา 5 วันต่อเนื่องก็จะหายได้ แต่หากมาพบแพทย์ช้า แม้จะมียารักษา แต่ก็จะมีความเสี่ยง บางรายอาจเกิดภาวะไตวายแทรกซ้อน
โดยในขณะนี้ มีการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคฉี่หนูในสถานพยาบาล ร้านขายยาในกรณีที่ผู้ป่วยมาหาซื้อยาเอง โดยขอให้ร้านขายยา แนะนำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ และกรมควบคุมโรคได้ทำหนังสือไปยังกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งจังหวัดให้แจ้งเตือนข้อมูลโรคฉี่หนู เพื่อให้ประชาชนเกิดความระมัดระวัง
มีข้อแนะนำป้องกันการติดเชื้อดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบู๊ต ถุงมือยาง กางเกงขายาว หรือชุดกันน้ำขณะเดินลุยน้ำท่วมขัง ย่ำดินที่ชื้นแฉะ และการทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด
2.ให้ทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันทีหลังลุยน้ำย่ำโคลนหรือลงแช่น้ำ
3.หากมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดกล้ามเนื้อที่น่องหรือโคนขา หลังลุยน้ำย่ำโคลนหรือลงแช่น้ำ อย่าซื้อยามารับประทานเอง ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดและแจ้งประวัติเสี่ยงให้แพทย์ทราบ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 26 ตุลาคม มีรายงานข้อมูลผู้ป่วยโรคฉี่หนู ในทุกภูมิภาค รวม 2,494 ราย เสียชีวิต 28 ราย โดยแนวโน้มพบผู็ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS