สามารถ ไม่หวั่น สส.พรรคพลังประชารัฐไม่พอใจ ลั่น ผมผิดหรอ เอาคนมาเข้าพรรค เชียร์ประวิตรเป็นนายกฯ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันที่ 31 ก.ค.2567 ที่รัฐสภา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แสดงความไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหว โดยเตือนหากยังไม่จบ ไม่หยุดการกระทำ จะใช้มติกรรมการบริหารพรรค ขับไล่ออกไป ว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะตนไม่ได้ทำอะไรให้พรรคเสียหาย สิ่งที่ตนทำไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ก็ทำในนามส่วนตัว ตามเสรีภาพ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เคยใส่เสื้อพรรคพลังประชารัฐไปด่านายกรัฐมนตรี ตนแค่ออกมาพูดแทนประชาชนที่วันนี้กำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้อง
“ถ้าท่านนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน พูดว่าเสียหาย คุณเศรษฐาก็ฟ้องผมได้ แต่ปรากฏว่าตั้งแต่พูดมาจนถึงปัจจุบัน คุณเศรษฐาไม่เคยฟ้องผมแม้แต่คดีเดียว ไม่เคยมี สส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้ตอบผมแม้แต่คนเดียว กลับกันพรรคพลังประชารัฐเดือดร้อนแทนนายกรัฐมนตรี ผมเลยงงว่าพรรคเป็นพรรคลูกไล่ หรือพรรคร่วมรัฐบาล คำว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคลูกไล่ หรือพรรคสาขา พรรคพลังประชารัฐเรามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมจะเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วผมผิดหรือ ผมจะต้องถูกขับออกจากพรรคหรือ” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ที่สมาชิกพรรคสามารถด่าหัวหน้าพรรค แต่เมื่อกรรมการบริหารพรรคเปิดข้อบังคับ เพื่อหาวิธีขับสมาชิกพรรคคนนั้นออกจากพรรค จนทุกวันนี้ก็ยังหาไม่ได้ แถมสมาชิกพรรคคนนั้นยังขู่ว่าขับเลยจะได้ฟ้องศาล ตนจึงสงสัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองใช้คนละฉบับหรือไม่
“ผมเชียร์ ผมชม หัวหน้าพรรค เอาคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค กลับจะถูกให้ขับออกจากพรรค ผมเลยตอบไปว่าไม่ต้องขับผมหรอกครับ ถ้าขับผมแล้วสมาชิก 60,000 คน จะเดือดร้อน เพราะถ้าพูดไม่ได้ ต่อไปด่ารัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเขียนข้อบังคับพรรคมาว่า ห้ามพูดถึงรัฐบาล ห้ามโจมตีรัฐบาล ถ้าเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยด่ารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเลยสักคนเดียว ทั้งๆ ที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน สุดทน สุดกลั้น แต่เราเข้าใจความเป็นพรรคการเมือง เราต้องให้เกียรติกัน
นายสามารถ ยังกล่าวยกตัวอย่าง นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี หรือนายภูมิธรรม เวชชัย ซึ่งมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ก็ออกมาว่านายเศรษฐา แต่ไม่เคยเห็นนายเศรษฐาออกมาตำหนินายภูมิธรรม ไม่เห็นนายภูมิธรรมตำหนินายวรชัย
เมื่อถามถึงกรณีการคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ทางนายสามารถ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกัน เพราะเรื่องไม่ได้เกิดจากตน แม้จะปรับความเข้าใจกันยากขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะหาก ร.อ.ธรรมนัสไม่ด่าตนและตนไม่ด่า ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่มีปัญหาอะไร การที่มาชี้แจงในวันนี้ เพราะร.อ.ธรรมนัสให้เกียรติตนมาก จึงรู้ว่ากระบวนการที่ผ่านมา รู้ตัวผู้กระทำแต่ขอไม่พูดถึง พร้อมอโหสิกรรมให้ แต่วันนี้มาขอโทษตนหน่อยก็ดี อีกทั้งยังไม่เคยเห็นกระบวนการสอบสวนว่าตนมีความผิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวไม่เคยเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่มีเพียงกระแสข่าวออกไปว่าตนเป็นคนชั่ว คนเลว คนต่ำช้า แล้วมันยุติธรรมหรือไม่ คราวที่แล้วตนนั้นใหม่ทางการเมือง แต่วันนี้ไม่ใหม่แล้วจะไม่ยอมตายคนเดียว และไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้รู้สึกน้อยใจหรือไม่ นายสามารถ ย้อนถามผู้สื่อข่าวกลับมาว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะน้อยใจหรือไม่ ขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐได้มีการหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอย นายสามารถ กล่าวว่า ให้เขียนข้อบังคับพรรค อย่างสถาบันทางการเมืองต้องเป็นพื้นที่พูดคุย นำปัญหาของประชาชนมาพูดคุยกัน และกำหนดเป็นนโยบาย หากไม่กล้าวิจารณ์นายกรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินได้ ใครจะเป็นที่พึ่งของประชาชน
“ขนาดคนในพรรคเพื่อไทยยังวิจารณ์นายกได้ แล้วผมเป็นใคร เป็นแค่สมาชิกพรรคตัวแค่นี้ และเวลาผมวิจารณ์นายกรัฐมนตรีผมก็วิจารณ์ในนามส่วนตัว ดังนั้นจะมาลงโทษผมเรื่องไร” นายสามารถ กล่าวทิ้งท้าย
ระหว่างที่นายสามารถให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่านายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ และคณะได้ลงมาชั้นล่างพอดี นายอรรถกรได้ทำท่าแบะปาก และเอามือวนที่หู ก่อนจะสายหน้าและโบกมือในอาการกวน และช่วงที่นายอรรถกร เดินผ่านวงสัมภาษณ์ไปนั้น ได้กระแอมใส่ด้วย ก่อนจะเดินออกไปทันที
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS