Connect with us

News

หนุ่มเมืองจันท์ เจาะเบื้องลึก ปานปรีย์ลาออก หนึ่งใน 3 คน ภูมิธรรม-สุริยะ-พิชัย มีใครที่ปานปรีย์ไม่ยอมรับ??

Published

on

หนุ่มเมืองจันท์ วิเคราะห์ปมปานปรีย์ ลาออก หลังถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกฯ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายสรกล อดุลยานนท์ หรือ หนุ่มเมืองจันท์ นักเขียนและคอลัมนิสต์ชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็น ครม.ชุดใหม่ ในรัฐบาลเศรษฐา เพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยหนุ่มเมืองจันท์ ระบุว่า

ปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออก!!!

ในขณะที่การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ทุกคนโฟกัสไปที่จุดอื่นทั้งรัฐมนตรีที่ถูกปลดออก รัฐมนตรีที่เข้ามาใหม่ และการสับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่มีใครสนใจ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเลย แม้มีข่าวว่าจะพ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ เหลือแค่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพียงตำแหน่งเดียว

แต่ในมุมการเมือง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะ “รัฐมนตรีว่าการฯ” เป็น “ตำแหน่งหลัก” ที่นักการเมืองต้องการยึดไว้มากกว่าตำแหน่งรองนายกฯเหมือนข้าราชการประจำอยากเป็น “อธิบดี” มากกว่า “รองปลัด” แต่ทันทีที่มีการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ “ปานปรีย์” ยื่นใบลาออกทันที ทิ้งปริศนาการเมืองให้ต้องตีความ

สถานะของ “ปานปรีย์” ไม่ธรรมดา
เขาเป็นหลานเขยของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหลานที่ “น้าชาติ” ให้ความไว้วางใจ เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา สมัย “น้าชาติ” เป็นหัวหน้าพรรคก่อนที่ “ชาติพัฒนา” จะยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย เคยเป็นผู้แทนการค้าไทย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ประธานอร์ด ปตท. ฯลฯ
เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เขายืนหยัดอยู่กับพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทยมาตลอดจนถือว่าเป็น “ลูกหม้อ” คนหนึ่ง

ว่ากันว่า ”ปานปรีย์“ เป็นคนที่ ”ทักษิณ“ ให้ความไว้วางใจ ถือเป็นสายตรงของบ้านจันทร์ส่องหล้า ตอนที่ได้รับตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีคนบอกว่า ชื่อ ”ปานปรีย์“ ได้รับการยอมรับในกลุ่มยอดปิรามิดสูงมาก ช่วงที่ผ่านมาเขาทำงานคู่กับ ”เศรษฐา ทวีสิน“ ในการบุกเบิกตลาดต่างประเทศ ไม่เคยมีข่าวความขัดแย้งระหว่าง “เศรษฐา-ปานปรีย์” หลุดออกมาเลย แม้วิธีคิดเรื่องการเดินเกมต่างประเทศของทั้งคู่จะแตกต่างกันบ้าง นอกจากนั้นในช่วงที่มีข่าวเรื่องการปรับครม.ก็ไม่เคยมีสัญญานความไม่พอใจออกมาจาก ”ปานปรีย์“ แล้วทำไมเขาจึงลาออก!!!

อย่าลืมว่าตอนที่ ”ปานปรีย์“ เป็นรองนายกฯควบ รมต.ต่างประเทศ หมายความว่าเขาขึ้นตรงกับ ”นายกรัฐมนตรี“ เพียงคนเดียว แต่เมื่อไม่ได้เป็น รองนายกฯ หลังการปรับครม. กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องอยู่ในการกำกับดูแลของรองนายกฯคนใดคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยซึ่งมีอยู่ 3 คน ภูมิธรรม เวชยชัย -สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ พิชัย ชุณหวชิร ไม่รู้ว่า “เศรษฐา” วางตัวใครมาคุมกระทรวงการต่างประเทศ และคนนั้นเป็นคนที่ “ปานปรีย์” ยอมรับหรือไม่?

ส่วนเรื่อง “อำนาจ”
ตอนที่ “ปานปรีย์” เป็นรองนายกฯ เขาดูแล 3 กระทรวง คือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม ส่วนหน่วยงานสำคัญในสังกัด คือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ฯลฯ

เมื่อ “ปานปรีย์” โดนริบตำแหน่ง รองนายกฯ เท่ากับว่าอำนาจกำกับดูแลกระทรวงและหน่วยงานอื่นก็หายไปด้วย หากมองในเชิงอำนาจการบริหาร หลังการปรับครม.ครั้งนี้ “ปานปรีย์” อำนาจลดลง เขาคงมีคำถามอยู่ในใจ เมื่อคนอื่นควบ “รองนายกฯ” ได้แล้วทำไมเขาจึงควบไม่ได้ คนอื่นเก่งกว่าเขาตรงไหน?
จนถึงนาทีนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไม “ปานปรีย์” ถึงตัดสินใจลาออก แต่การเลือกจังหวะทิ้งไพ่ “ลาออก” ทันทีหลังมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ทำให้ภาพลักษณ์ของการปรับครม.ครั้งนี้เสียหาย เพราะถ้าทุกอย่างนิ่ง ไม่มีคลื่นใต้น้ำก็แสดงว่าการกระชับอำนาจทางการเมืองและการบริหารครั้งนี้ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อ “ปานปรีย์” ยื่นใบลาออกรอยร้าวนี้กลาย “รูรั่วเล็กๆ“ ของรัฐนาวา ”เศรษฐา1/2“ ขึ้นมาทันที ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะขยายเพิ่มมากขึ้นหรือไม่

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: