Connect with us

News

บริการเต็มที่! “กลุ่มคนข้ามเพศ” มีความจำเป็นต้องรับยาฮอร์โมน บำบัด ใช้ 30 บาทรักษาทุกที่ได้

Published

on

30 บาทรักษาทุกที่ เตรียมบริการยาฮอร์โมนบำบัด “กลุ่มคนข้ามเพศ”

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายใต้ “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” หรือ บัตรทอง 30 บาท นอกจากจะให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพทางกายแล้ว ยังให้ความคุ้มครองสิทธิการดูแลสุขภาพทางใจให้กับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองฯ ด้วย รวมถึงประชากรในกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยปัจจุบันด้วยความเข้าใจและเปิดกว้างของสังคม อันส่งผลให้สภาวะเพศในวันนี้ ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เพียงเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น แต่ผู้คนต่างให้การยอมรับเพศที่แตกต่างมากขึ้น 

อย่างไรก็ดี ในกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ มีจำนวนหนึ่งที่เป็น “กลุ่มคนข้ามเพศ” และมีความจำเป็นต้องได้รับยาฮอร์โมน เพื่อทำให้ร่างกายมีความสอดคล้องกับสภาพจิตใจที่เป็นอยู่ ที่ถือเป็นการบำบัดหรือรักษา ดังนั้นในการพิจารณางบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2568 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 จึงได้เห็นชอบให้ สปสช. ดำเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนบริการสิทธิประโยชน์ใหม่ คือ “บริการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ” จำนวน 145.63 ล้านบาท เพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมายจำนวน 200,000 ราย โดยรวมถึงบริการยาฮอร์โมนบำบัดนี้ด้วย

สมศักดิ์ กล่าวว่า สิทธิประโยชน์นี้จะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำสุขภาพ ซึ่งเดิมทีคนที่จะรับยาฮอร์โมนนี้ จะต้องจ่ายเงินเองเท่านั้น ทำให้มีส่วนหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงการรักษา และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ เพราะมีจำนวนหนึ่งที่ไปหาซื้อยาฮอร์โมนมากินเองที่อาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการดูและทางด้านจิตใจ ทำให้ให้ร่างกายอยู่ในสภาวะเดียวกับจิตที่เป็นอยู่        

“ขณะนี้ได้มอบ สปสช. เร่งดำเนินการสิทธิประโยชน์ยาฮอร์โมนสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเร็วที่สุด ซึ่งในเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคม และ สปสช. จะมีประชุมร่วมกันเพื่อวางแนวทางให้บริการอย่างครบวงจร” สมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าว     

สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากบริการยาฮอร์โมนแล้ว ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยังมีสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขที่ครอบคลุมดูแลกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศที่ไม่ต่างจากประชากรทั่วไป ซึ่งครอบคลุมทั้งบริการรักษาพยาบาล บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม ซึ่งสามารถรับบริการนี้ได้

“กฎหมายสมรสเท่าเทียมวันนี้ได้มีผลบังคับใช้แล้ว นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของสังคมไทย ที่มีความหลากหลาย ภายใต้การดูแลและให้บริการต่างๆ ของภาครัฐที่ไม่แตกต่าง ซึ่งรวมถึงหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินี้ด้วย” สมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าว

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: