Connect with us

News

สรุปแล้ว!! เชื่อได้? เติมน้ำมันอย่าเติมให้เต็มถัง เราจะขาดทุนเป็นร้อย เพราะน้ำมันค้างสาย!!

Published

on

อ.เจษฎา ระบุ ปมแชร์ข่าวเติมน้ำมันอย่าเติมให้เต็มถัง เราจะขาดทุนเป็นร้อย เพราะน้ำมันค้างสายจะคืนเป็นของปั๊ม เด็กปั๊มจะได้ครั้งละสิบบาท

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า…

(รีโพสต์) “เติมน้ำมันเต็มถัง ไม่ได้ทำให้เราขาดทุน นะครับ”

มีการแชร์ข้อความกันว่า “เติมน้ำมันอย่าเติมให้เต็มถัง เราจะขาดทุนเป็นร้อย เพราะน้ำมันค้างสายจะคืนเป็นของปั๊ม เด็กปั๊มจะได้ครั้งละสิบบาท ให้เราบอกราคาไปเลยว่าเติมเท่าไหร่ น้ำมันที่ค้างสายก็จะไหลเข้าถังเรา เพราะยังมีที่ว่างให้น้ำมันไหลลงถังรถได้” … เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือ ?

คำตอบคือ ไม่จริงครับ ! การเติมน้ำมันเต็มถังนั้น จะได้ปริมาณน้ำมันตามที่ผ่านหัวจ่ายไปจริง ไม่ได้คิดรวมถึงน้ำมันที่ค้างในสาย จึงไม่ได้จะทำให้เราขาดทุนนะครับ

การเติมน้ำมันรถนั้น ปริมาณน้ำมันที่ได้จะเท่ากับตัวเลขที่แสดงบนหน้าปัดตู้จ่ายเสมอ เพราะน้ำมันไม่สามารถไหลย้อนกลับไปทางสายเติมน้ำมันได้ เนื่องจากตู้จ่ายน้ำมัน (รวมถึงสาย และหัวจ่าย) ในสถานีบริการทุกแห่ง เป็นแบบเดินทางเดียว (ONE WAY) คือ มีแต่จะจ่ายออกอย่างเดียว ภายในของสายเติมน้ำมันจะมีน้ำมันอยู่เต็มตลอดเวลา เนื่องจากเป็นระบบสุญญากาศ อากาศจากภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้

ส่วนตู้จ่าย จะคิดเงินตามปริมาณของน้ำมันที่จ่ายออกจากหัวจ่าย น้ำมันที่ค้างอยู่ในสายเติมน้ำมัน (ซึ่งมีอยู่เต็มตลอดเวลานัั้น) จะไม่ถูกนำมาคิดเงินด้วย

ส่วนการเติมเต็มถังนั้น กลไกการเติมน้ำมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับการเติมไม่เต็มถัง เพียงแต่ระบบการจ่ายน้ำมันจะอาศัยเซนเซอร์ ที่เห็นเป็นรูเล็กๆ ตรงล่างสุดของปลายหัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งเมื่อน้ำมันถูกเติมลงไป จนสูงขึ้นมาถึงเซนเซอร์นี้แล้ว ก็จะสั่งให้ตู้จ่าย ตัดการจ่ายน้ำมันออกมา

ที่สำคัญที่เราผู้บริโภคต้องระวัง มีเพียงแค่คอยสังเกตว่า ปั๊มน้ำมันนั้นมีเครื่องหมายการตรวจสอบจากกรมการค้าภายในหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าปริมาณน้ำมันที่เติมรถ มีจำนวนเท่ากับตัวเลขบนหน้าปัดของตู้จ่ายน้ำมันครับ

#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: