สาวเล่าประสบการณ์เส้นเลือดในสมองแตก โดยไม่มีสาเหตุชี้ชัด รักษาตัวที่รพ.ร่วม 2 เดือน กลับมากายภาพที่บ้าน ร่างกายยังไม่ปกติ 100%
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความเล่าประสบการณ์เส้นเลือดในสมองแตก โดยระบุว่า
เมื่อ เราในวัย 35 ปี เส้นเลือดในสมองแตก แล้วทำไมถึงมาโพสต์ในกลุ่มวิ่ง??? ความตั้งใจเราคืออยากให้การเจ็บป่วยของเราได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นเริ่มจากตัวเราเองนี่แหละค่ะ ปกติเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม เล่นกีฬา วิ่ง ขึ้นเขา ชอบและสนุกที่ได้ออกกำลัง ไม่มีโรคประจำตัว ความดัน เบาหวาน ไม่เคยเส้นเลือดตีบตัน โป่ง หรือเปราะมาก่อน จ๊ะเปิดร้านกาแฟ ทุกอย่างก็ดำเนินไปปกติ มีนอนดึกบ้างจนกระทั่งวันที่ 2 ก.พ.2567
ขณะที่เรากำลังชงกาแฟ เราเริ่มมีอาการตาพร่าเห็นภาพซ้อน ปวดหัว จะอาเจียน จึงโทรให้แฟนมาพาไปโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้น เราไม่เคยรู้จักโรคหลอดเลือดในสมอง(Stroke)อย่างจริงจังว่าคืออะไร และมีอาการอย่างไร เคยได้ยินเส้นเลือดในสมองแตกแค่นั้น แต่ไม่คิดว่าอายุอย่างจ๊ะ 35 ปีจะเป็น คิดว่าห่างไกล แต่ก็เกิดขึ้นกับตัวแล้ว สมองมีเลือดออกเยอะ
แต่โชคดีที่ไปถึงโรงพยาบาลเร็วและได้ผ่าตัดไม่เกิน 4 ชั่วโมง จึงพ้นขีดอันตรายอยู่ไอซียู 18 วัน รวมนอนโรงพยาบาลเกือบๆ2 เดือนจึงกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน อาการจากโรคคือ แขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง ทักษะการกะระยะที่ไม่เหมือนเดิม ความเข้าใจ ความจำที่อาจไม่เหมือนเดิมต้องค่อยๆและใช้เวลาในการทำความเข้าใจที่มากขึ้น การมองเห็นที่ไม่ชัดเจน และลานสายตาที่แคบลงเนื่องจากสมองบริเวณที่เลือดออกเยอะเป็นส่วนที่ควบคุมการมองเห็น ทำให้มีการมองที่ไม่เหมือนเดิม เป็นเรื่องของ
สมองในการแสดงผลสิ่งที่มองเห็น ไม่ใช่เป็นที่ดวงตา ขึ้นอยู่กับสมองว่าจะฟื้นฟูได้มากแค่ไหน
ในช่วงของการฟื้นฟู ทำกายภาพตั้งแต่ที่อยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาตั้งแต่เกิดเรื่อง 5 เดือนกว่า ก็ยังคงทำกายภาพต่อเนื่อง และเริ่มกลับมาเดิน และหวังว่าจะสามารถกลับไปวิ่งได้ค่ะ ร่างกายก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่ปกติ 100%ค่ะ แต่ก็พยายามฝึกตรงส่วนที่เรามีปัญหาและปรับตัว ระมัดระวังมากขึ้นเพื่อใช้ชีวิตได้ปกติมากที่สุด
เจตนารมณ์ที่อยากลงโพสต์คืออยากให้ทุกคนได้ผ่านตาจากเรื่องราวของจ๊ะ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ได้รู้จักโรคหลอดเลือด (Strokeและอาการและนำส่งโรงพยาบาลให้ทันหากเกิดเหตุกับตัวเองหรือคนใกล้ตัวเพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทุพพลภาพ จากกรณีตัวจ๊ะเอง ที่อายุ35 ปี และออกกำลังกาย ไม่มีอะไรชี้ชัดได้เลยว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่เป็นหรือไม่ทำแล้วจะเป็น สิ่งสำคัญคือ เมื่อมีอาการที่เข้าข่าย ให้รีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพื่อการช่วยชีวิตที่ทันค่ะ
รู้ทันอาการโรคหลอดเลือดสมอง BEFAST
B-balance เวียนหัว เสียการทรงตัว
E-eye ตามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อน
F-face ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว
A-arm แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง
S-speechพูดติดขัด
T-Time หากมีอาการเหล่านี้ ให้รีบไปโรงพยาบาลให้ทันภายใน4.5ชั่วโมง รู้อาการ รักษาทัน ลดการสูญเสียชีวิตและทุพพลภาพ #Stroke #BeFast #เราในวัย35ปีที่เส้นเลือดในสมองแตก
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS