ผู้ว่าฯ สระบุรี เผยกรณีเจ้าหนี้ติดป้ายตามหาลูกหนี้ บริเวณสะพานลอยและริมถนนสาธารณะ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย พร้อมเร่งดำเนินการเชิญเจ้าหนี้-ลูกหนี้ เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยถึงกรณีปรากฏข่าวสารผ่านสื่อโทรทัศน์ กรณีเจ้าหนี้ติดป้ายตามหาลูกหนี้ที่สะพานลอย และริมถนนสาธารณะ บริเวณถนนสายลพบุรี-สระบุรี ซึ่งในเบื้องต้น ตนได้รับรายงานจาก นายสันทันศ์ รันดาเว นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ว่าได้มีการมอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหน้าพระลาน ตรวจสอบบริเวณทางหลวงหมาย เลข 1 (ถนนพหลโยธิน) พบว่ามีการติดตั้งป้ายดังกล่าวจริงบริเวณสะพานลอยหน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค สระบุรี และบริเวณริมทางหลวงหมายเลข 1 (แยกวัดใหม่สามัคคีธรรม) ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปลดป้ายดังกล่าวลงมาแล้ว พร้อมดำเนินการสืบสวนเพื่อหาแหล่งที่มา และนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ที่ทำการปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และสถานีตำรวจภูธรหน้าพระลานปลดป้ายดังกล่าว พร้อมส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหน้าพระลาน เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมาย พร้อมสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และสถานีตำรวจภูธรหน้าพระลาน ดำเนินการสืบสวนหาข้อมูลของผู้ที่ติดตั้งป้ายดังกล่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งค้นหาบุคคล (ลูกหนี้) ที่ปรากฏในป้าย โดยมีผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ช่วยกันหาข่าว เพื่อทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับหนี้ และเชิญเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบต่อไป” นายบัญชาฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ นายสันทันศ์ รันดาเว นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอ ออกสำรวจร้านทำไวนิลที่อยู่ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พบว่ามีจำนวน 2 ร้าน และดำเนินการสำรวจในพื้นที่อำเภอใกล้เคียง พร้อมทั้งกล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวของผู้ที่ติดป้ายไวนิลถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 และมีความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ที่เป็นการบดบังทัศนวิสัยการขับขี่ รวมถึงอาจไม่มั่นคงแข็งแรง จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ขับขี่ได้
โดยจังหวัดสระบุรีมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงข้อสั่งการของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อย่างเคร่งครัด ซึ่งได้กำชับให้ทุกจังหวัดได้จัดระเบียบสังคมเพื่อเสริมสร้างความผาสุกในสังคมไทย ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข จึงขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล ใช้ชีวิตได้เป็นปกติ และขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
“ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยกันระแวดระวังบ้านเมืองของเรา ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงด้วย หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกคุ้มครองและปกปิดเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้พลเมืองดีต้องได้รับภัยจากการแจ้งเบาะแสดังกล่าว” นายบัญชาฯ กล่าวในช่วงท้าย