Connect with us

News

บทเรียนเกรียนคีย์บอร์ด! คอมเมนต์คุกคามทางเพศ โดนฟ้องกลับ 2 แสนบาท ไม่มีเงินจ่าย

Published

on

บล็อกเกอร์สาว เล่าประสบการณ์ ถูกคอมเมนต์คุกคามทางเพศ ฟ้องเรียก 2 แสนบาท อีกฝ่ายไม่มีเงินจ่าย จะให้พ่อแม่อายุ 70 ปี มากราบขอโทษ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Framsook Lek Lek หรือคุณทราย บล็อกเกอร์สาวผู้มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ โพสต์เล่าประสบการณ์ฟ้องร้องค่าเสียหายจากโซเชียล หลังคุณทรายลงรูปตัวเองใส่ชุดว่ายน้ำที่ชายทะเล แต่กลับถูกชายรายหนึ่ง เอาไปแชร์ต่อในลักษณะคุกคาม โดยระบุว่า

วันนึงมีคนทักเข้ามาในเพจว่ามีคนแชร์รูปทรายไปในกลุ่มๆหนึ่งข้อความก็อย่างที่เห็นเลยค่ะ ทรายได้แต่สงสัยว่าเราไปทำอะไรให้พวกเขาไม่พอใจเหรอ การไปเที่ยวทะเลแล้วใส่ชุดว่ายน้ำมันผิดกาลเทศะ? รึว่าแค่เพราะเราอ้วนจึงถูกรังเกียจ

ตอนแรกคิดว่าอยากเข้าไปโต้ตอบพวกเขาเหมือนกันแต่ก็คิดว่าเราต้องมีความคิดต่ำๆขนาดไหนถึงจะสามารถพิมพ์ข้อความแบบนั้นได้ เราเลยปกป้องตัวเองด้วยวิธีทางกฎหมาย
ทรายไปศาลทุกครั้งทั้งๆที่แค่ส่งทนายไปก็ได้ ทรายไปเพราะอยากเจอคู่กรณีอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาพูดกับเราแบบนั้น อยากรู้ว่าถ้าเขาเจอหน้าเรา จะขอโทษมั้ยและก็เป็นไปตามคาดไม่มีคำเหล่านั้นหลุดออกมา

ทรายเรียกไป2แสนซึ่งเป็นโทษสูงสุด ทางนั้นยื่นมาว่าขอให้แค่3หมื่นเพราะเขาเป็นแค่พนักงานโรงงานเงินเดือนแค่ 15,000 แน่นอนว่าทรายไม่ยอมไม่ใช่เพราะมันน้อยไปหรอกนะแต่เพราะมันดูง่ายไป
เมื่อทรายไม่ยอมผู้พิพากษ์ษาก็เรียกไปคุยหน้าบัลลังก์ ทรายบอกท่านว่างานเราใช้ชื่อเสียงและการกระทำของเขาอาจทำให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการจ้างงานได้

ท่านผู้พิพากษาแนะนำว่าให้ไปไกล่เกลี่ยกันอีกทีและคนที่จะเข้ามาจ้างงานก็น่าจะมีวิจารณญาณว่าเราไม่ใช่คนผิดเพราะเราไม่ได้เป็นคนทำ ประโยคนี้ทำเราใจชื้นขึ้นมาเยอะเลย
สุดท้ายเราเลยยื่นตัวเลขไปว่า 50,000 งวดเดียวหรือ70,000แบบทยอยจ่ายแล้วเราก็จะถอนฟ้องให้ แต่ทางนั้นก็พูดมาอย่างเดียวว่าตอนนี้ไม่มี โอเคร งั้นเราให้เวลาอีก1เดือนแล้วมาเจอกันครั้งหน้าซึ่งเป็นนัดไกล่เกลี่ย

จนมาถึงวันนัดไกล่เกลี่ย เริ่มจากเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยเรียกทางเราเข้าไปก่อน ท่านพูดคุยให้คำปรึกษากับเราซึ่งดีมาก ท่านบอกว่าถ้าจบเร็วจะเป็นผลดีต่อเรานะทั้งเรื่องเวลาและชื่อเสียงด้วย เราเลยยื่นไปว่าถ้า40,000ได้ ทางเราจะถอนฟ้องให้(คดีนี้เป็นอาญานะคะ)
จากนั้นเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยก็เรียกอีกฝ่ายเข้าไปคุย(เป็นการสลับกันเข้าไป) ประมาณ10นาทีมีเจ้าหน้าที่มาตามเราและทนายเข้าไปในห้องเพื่อคุยกับคู่กรณีแบบเผชิญหน้า

เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยแจ้งว่าทางนั้นมีแค่35,000เพราะมาจากโคราชมีเงินอยู่เท่านี้และเงินจำนวนนี้คือเงินของพ่อแม่ไม่ใช่เงินของลูกชายผู้กระทำผิดเพราะเขาไม่มี อยากให้ถอนฟ้องอยากให้เรื่องจบจะให้พ่อแม่มาไหว้ขอโทษแทนก็ยอม

เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าทำไมเราถึงยอมให้เรื่องจบด้วยเงิน35,000
อันที่จริงมันอาจจะเป็นแค่เทคนิคในการต่อรองหรืออะไรก็ไม่รู้แหละแต่การจะให้คนอายุจะ70มาขอโทษเราทั้งๆที่พวกเค้าไม่ได้ทำผิดอะไรเราว่ามันไม่ควรจริงๆ

ส่วนตัวคนกระทำผิดเราบอกให้โพสขอโทษลงโซเชี่ยลกลับตอบเรามาว่าแค่ขอโทษซึ่งหน้าไม่ได้เหรอ เราบอกไม่ได้ทีคุณยังแชร์เรื่องเราไปโพสบนโซเชี่ยลเลยและต้องแท็กเพจกับเฟสเรา ห้ามลบด้วย
เขาก็แค่โพสตามที่ทุกคนเห็นและไม่ได้เอ่ยขอโทษต่อหน้าเราสักคำ

ทรายใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ8เดือนในการดำเนินคดีไปศาลทั้งหมด3ครั้ง อ่านข้อความเหล่านั้นซ้ำๆแบบนับไม่ถ้วนและคิดว่าเป็นเพราะเราอ้วนแค่นั้นเองเหรอ เรื่องนี้มันมีผลกระทบต่อจิตใจเรามาตลอด
ในโลกโซเชี่ยลที่ทุกคนเห็นเราดูเป็นคนมั่นใจและสดใสคือเราต้องพยายามสร้างสิ่งนั้นเพื่อกดทับเรื่องเหล่านี้ไว้

สุดท้ายทรายอยาก”ขอ”ว่าอย่าคอมเม้นท์ด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรงอย่าให้เขามาหาผลประโยชน์จากความไม่พอใจของเราได้ และที่สำคัญอย่าไปว่าพ่อแม่รึคนรอบข้างเขาเลยพวกเขาไม่ได้ผิดอะไร

ทรายชอบประโยคนึงจาก Forrest gump
“จงสุภาพกับทุกคน แม้คนนั้นจะหยาบคายกับคุณก็ตาม
ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่เพราะคุณเป็นคนดี”

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: