จ.กาญจนบุรี ประกาศปิดบริษัท เอสอีดับเบิ้ลยูที กาญจนบุรี จำกัด เป็นการชั่วคราว หลังพบผู้ติดเชื้อในโรงงานจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 4029/2564 เรื่อง ปิดบริษัท เอสอีดับเบิ้ลยูที กาญจนบุรี จำกัด เป็นการชั่วคราว ซึ่งประกาศคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ยังคงพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่อำเภอท่าม่วง มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ประกอบกับอำเภอท่าม่วงเป็นพื้นที่ที่มีสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง มีกลุ่มแรงงาน และสถานประกอบการโรงงานใกล้ชุมชน ซึ่งมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค
จากการสุ่มตรวจเชิงรุกพบข้อมูลของผู้ติดเชื้อในบางโรงงาน อาจส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคออกไปเป็นวงกว้าง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (1) และ (7) 34 และ 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบข้อ 2 ข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 9 (ฉบับที่ 20)ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 และข้อ 9 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้
ข้อ 1 กำหนดปิดบริษัท เอสอีดับเบิ้ลยูที กาญจนบุรี จำกัด เลขที่ 188 หมู่ 9 ตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COV – 19) ให้กับพนักงานจนครบถ้วน และแยกจำนวนผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาเรียบร้อยตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาด ยกเว้น ในส่วนของขั้นตอนการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อระบบงาน อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการผลิตในภาพรวม หรือเกิดความเสียหายต่อวัตถุดิบคงค้าง ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามสมควร โดยจำกัดจำนวนแรงงานให้น้อยที่สุด
รวมทั้งมีการแยกพื้นที่ในส่วนที่มีความจำเป็นออกจากพื้นที่ส่วนใหญ่ให้ชัดเจน ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ตามมาตรการ D – M – H -T -T – A และข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หลักการของ Social Distancing ของกระทรวงสาธารณสุข โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
และข้อ 2 เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
You must be logged in to post a comment Login