Connect with us

News

เรื่องนี้เล่นกันแรง ในเมื่อคนมันอยากเป็น มันห้ามไม่ได้ ก็คนที่ไปพบนั่นแหละ ใครไปพบ ก็คนนั้น !!

Published

on

สุรเชษฐ์ เผย ทำเป็นขบวนการ หวังสกัดนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ชี้ เรื่องนี้เล่นกันแรง ในเมื่อคนมันอยากเป็น มันห้ามไม่ได้ ก็คนที่ไปพบนั่นแหละ ใครไปพบ ก็คนนั้น

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่สำนักงานกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นหนังสือถึงประธาน ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการทำงานของหัวหน้าพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีการฟอกเงินจากเครือข่ายเว็บการพนัน BNK Master ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกกล่าวหา ว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการออกมาเดินหน้าเทียร์ 2 หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้ร้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าคณะพนักงานสอบสวนทั้งสน.เตาปูนและ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไม่มีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนทำคดี จึงถือพยานหลักฐานได้มาโดยมิชอบทั้งหมด ไม่สามารถนำเข้าสู่สำนวนคดีได้

วันนี้จึงเดินทางมายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนและพนักงานสอบสวนทั้งหมด จำนวนกว่า 200 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา และขอเตือนน้องๆพนักงานสอบสวนว่า หากกังวลว่ามีคำสั่งแล้วไม่ทำจะโดนย้าย แต่การย้ายไปก็ย้ายกลับได้ แต่หากถูกดำเนินคดีอาญาต้องติดคุก ซึ่งบางคนที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ อาจจะต้องใช้เวลาจากนั้นในการต่อสู้ทางคดีไปตลอด ซึ่งถ้าถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ก็ต้องออกจากราชการไว้ก่อน อย่าทำเป็นเล่น เพราะกระบวนการตรวจสอบของป.ป.ช.มีความรอบคอบ เป็นธรรมแน่นอน

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงการตรวจสอบเส้นเงินของ สน.เตาปูนและ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นเส้นเงินเดียวกัน มูลค่ารวมเกิน 300 ล้านบาท แต่กลับไม่ส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตามกฎหมาย ในกรณีนี้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจเปรียบเสมือนพยาบาลไม่ใช่แพทย์ หากทำคลอดเองเด็กจะตาย ดังนั้นตนขอแนะนำให้พนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องทุกคนมาให้ปากคำกับ ป.ป.ช. บอกว่าใครเป็นคนสั่งการ เป็นทางเดียวที่จะรอด ตนเข้าใจว่าวันนี้ทุกคนเครียดหมด ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การข่มขู่ เป็นเพียงการเตือนเท่านั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ถอนคำร้องที่ขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากกรณีแต่งตั้ง ผบ.ตร. และส่งตัวตนกลับสตช. ว่า ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบไปแล้ว และเรื่องได้ดำเนินการไปไกลแล้ว หากยื่นใหม่ถือเป็นการยื่นซ้ำและทำให้การสอบสวนยิ่งล่าช้า อีกทั้งส่วนตัว ได้ตรวจสอบแล้วพบว่านายกรัฐมนตรีถูกหลอกให้เซ็นคำสั่ง จากคนที่เข้าพบเป็นคนสุดท้าย ที่อยากได้ตำแหน่ง หวังเป็น ผบ.ตร. ขณะที่นายกรัฐมนตรีเข้าใจว่าการเป็นส่งตัวตนกลับไปเพื่อทำงานเท่านั้น

โดยพรุ่งนี้ตน จะมาอธิบายเทียร์ 3 ว่าถูกออกจากราชการได้อย่างไร ที่ตนรู้เพราะได้โทรศัพท์ไปกองวินัยฯ จึงรู้มีการเตรียมการล่วงหน้า 2 วัน พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ แต่อย่างใด แต่เป็นการตรวจสอบด้วยตนเอง การออกมาครั้งนี้ถือเป็นการดับเครื่องชนเพราะต้องการความยุติธรรมคืนเพื่อปกป้องตัวเอง

ส่วนที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการปลดป้ายชื่อหน้าห้องและเอารูปออกจากทำเนียบผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มองว่า เป็นเรื่องเบ็ดเตล็ดและเป็นการทำตามขั้นตอนไม่ได้มองว่าเป็นลางร้าย

เมื่อถามว่า ยังมีความหวังว่านายกรัฐมนตรี เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าใครจะมาช่วย ตอนนี้ทางออกของตนคือเป็นกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะมีโอกาสเป็น ผบ.ตร.หรือไม่ นั้นเป็นเรื่องของอนาคต แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหากตำแหน่ง ผบ.ตร.มาจากการเลือกตั้งอย่างไรประชาชนก็จะต้องเลือกตนแน่นอน เพราะประชาชนมองว่าตนเปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้าน คิดอะไรไม่ออกบอกโจ๊ก

เมื่อถามว่า คนที่อยู่ในขบวนการสกัดไม่ให้เป็น ผบ.ตร. มีคนที่ใหญ่กว่าคนที่เข้าพบนายกฯ อยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มี และมองว่าไม่เชื่อมโยงไปถึงฝ่ายการเมือง เพราะนี่เป็นกระบวนการของฝ่ายตำรวจ ส่วนที่มีคนออกมาแฉว่าก่อนเข้าพบนายกรัฐมนตรี บุคคลดังกล่าวได้เดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ส่วนตัวไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยว

“เรื่องนี้เล่นกันแรงอยู่แล้ว เพราะว่ามันต้องเล่นกันแรงแบบนี้ ในเมื่อคนมันอยากเป็น มันห้ามไม่ได้ ก็คนที่ไปพบนั่นแหละ ใครไปพบ ก็คนนั้น “

#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: