Connect with us

News

หมออี๊ด เผยสาเหตุ! อุทาหรณ์ นักมวยโหมลดน้ำหนัก จนเสียชีวิต

Published

on

หมออี๊ด เผยเคสนักมวยเสียชีวิตเพราะลดน้ำหนัก เกิดจากการสลายของกล้ามเนื้อ แพทย์ควรระวังอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีนักมวย MMA วัย 21 ปี เสียชีวิต เพราะพยายามลดน้ำหนักก่อนขึ้นชกแมทช์สำคัญ

ล่าสุด นพ.อี๊ด ลอประยูร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ และเวชศาสตร์การกีฬา ประจำโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ให้ความรู้กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า

นักมวยเสียชีวิตจากการพยายามลดน้ำหนัก
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนักมวย MMA ผู้นี้ด้วยครับ

น้ำหนักเกินก่อนขึ้นชก5-6 กิโลกรัมและเหลือเพียงสองวัน เขาจึงพยายามด้วยเพิ่มการฝึกและออกกำลังกายอย่างหนัก ถึงจะมีความรู้สึกผิดปกติคือปวดกล้ามเนื้อและปัสสาวะสีเข้มแต่เขาก็ขึ้นชกจนได้และสุดท้ายก็อาการหนักจนต้องส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน

สิ่งที่เขาเป็นคือเกิดการสลายของกล้ามเนื้ิอร่างกาย สารที่เกิดจากการสลายของกล้ามเนื้อ (ไมโอโกลบินและโปแตสเซี่ยม) นั้นเป็นพิษโดยเฉพาะทำให้ไตล้มเหลวเฉียบพลันและยังเป็นพิษต่อส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย

การงดดื่มน้ำหรือใช้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดน้ำหนักจนเกิดภาวะขาดน้ำในร่างกายอย่างรุนแรง , ยิ่งถ้ามีการอดนอนหรือการใช้สารกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อร่วมกับการออกกำลังกายอย่างหนักล้วนเป็นสาเหตุเสริมที่ทำให้เกิดภาวะสลายของกล้ามเนื้อ หรือ Rhabdomyolysis แม้ว่าในบางครั้งถึงไม่เสียชีวิตแต่ก็อาจทำให้ไตเสียถาวรไปบางส่วนได้

การที่มีบางค่ายมวยใช้หลักการป้องกันด้วยการตรวจความเข้มข้นของปัสสาวะก่อนขึ้นชกเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ ซึ่งหากความถ่วงจำเพาะสูงผิดปกติจะแสดงว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีการกำจัดน้ำของนักมวยจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย

นักกีฬาอาชีพนั้นมีความเสี่ยงในหลายๆด้านยิ่งมวยยิ่งเสี่ยงสูง การตรวจร่างกายทางการแพทย์อย่างละเอียดมีความสำคัญ บางค่ายต้องทำ CT scanสมอง ต้องตรวจจอม่านตา ต้องตรวจแก้วหู ก่อนการแข่งขัน แต่โดยทั่วไปละเลยไม่ให้ความสำคัญ ในบางแห่งกรรมการสมาคมที่เป็นฝ่ายแพทย์ยังถูกตัดออกด้วยซ้ำเพราะชอบไปแนะนำทำให้เขาทำงานลำบาก

คนหนุ่มคนสาวอนาคตไกลยิ่งมีน้อยลงทุกที โปรดช่วยกันดูแลด้วยเถอะครับ อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้จะดีท่ีสุด

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: