เดือด! กางเอกสาร สูตรคำนวณหนี้ ซัด! กยศ.หน้าเลือด??

ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น สูตรคำนวณหนี้ กยศ. แบบใหม่! ยอดหักหนี้รายเดือนสูง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nikorn Chunprom โพสต์ข้อความระบุว่า #กยศโคตรหน้าเลือด

แค่เห็นตัวอย่าง กยศ.ให้หักเงินเดือนลูกหนี้รายนี้ก็รู้สึกวืบขึ้นมาทันทีว่าแม่…ม #โคตรโหด!!!
หักเดือนละ 18,375บาท เด็กมันจะเอาที่ไหนมาจ่าย
แค่ฐานเงินเดือนขั้นต่ำ9,000แต่ความจริงก็จ้าง 12,000-15,000 แค่จ่ายหนี้กยศ.รายเดือนก็ยังไม่พอ
มันเอาอะไรมาคิด???

สูตรคำนวณหนี้แบบใหม่ที่เอาหนี้คงค้างรายปี+หนี้ค้างชำระทั้งหมด หารด้วย12นี่ มันโคตรจะหน้าเลือด
นักการเมือง/รัฐบาลต้องทำตัวมีสาระกับการแก้ปัญหาเรื่องอย่างจริงจัง เพราะหากปล่อยให้ กยศ.ทำแบบนี้เห็นชัดๆว่าคนกู้เรียนมีปัญหาจ่ายคืนเพิ่มขึ้นมากมายแน่นอน

เห็นนโยบายสวยหรูทั้งขึ้นค่าแรง พักชำระหนี้ แจกสวัสดิการฯลฯ เต็มทุกเสาไฟฟ้า
มันก็แค่ผายลมก่อนเลือกตั้ง
แก้ปัญหาให้เยาวชนคนตัวเล็กที่เขากู้เรียน6.4ล้านคน และยังอยู่ระหว่างชำระหนี้ 3.5ล้านคน ให้เขาเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ได้มั๊ย.

ต่อมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nikorn Chunprom คอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวเพิ่มเติมว่า

ขอเขียนยาวหน่อยนะ/งานเข้าเต็มๆ

เช้านี้มีข้อความจากคนในกยศ.ขอเบอร์เพื่อชี้แจงเรื่องนี้/ก็อยากฟังนะครับแต่ช่วงเข้านี่ไม่ค่อยสะดวก อีกอย่างกำลังดูรายละอียดพรบ.ใหม่ที่กำลังบังคับใช้ว่ามันมาเกี่ยวข้องกับที่ผมโพสต์ในแง่มุมไหน/พอดูในพรบ.กยศ.ที่แก้ไขใหม่และเพิ่งผ่านสภาช่วงต้นปี66และจะมีผลบังคับใช้เดือนกค.66 นี่ผมก็อยากแลกเปลี่ยนกับคนกยศ.อย่างมาก ๆ แต่เพื่อไม่ให้แค่ฟังคำชี้แจงแล้วผมจะต้องทำแค่บอกว่า”เข้าใจครับ มันเป็นระเบียบ “แค่นั้นก็ไม่มีประโยชน์อันใด
เพราะที่มากกว่าคำชี้แจงเรื้องนี้ถกกันมาหลายปีจนมีการแก้พรบ.ทั้งฝ่ายค้าน/รัฐบาลเห็นชอบร่วมกันหมด

ประเด็นที่จะคุยกันเพื่อความเข้าใจควรเป็นดังนี้
1.เหตุใดระหว่างรอพรบ.ใหม่มีผลบังคับใช้ กยศ.ถึงไปงัดระเบียบเก่า(2563)มาบังคับใช้ในการคำนวณหนี้ตั้งแต่เดือนม.ค.66ที่พรบ.เพิ่งผ่านสภา
2.การไปใช้ระเบียบเก่ามาคำนวณหนี้จนลูกหนี้ที่เคยจ่ายเดือนบะ3,000กว่าบาทมันพุ่งขึ้นเป็นเดือนละ18,000บาทตามสูตรคำนวณนั่นมีนัยะอะไรหรือเปล่า
3.จากข้อ 2.วิธีการปรับการคำนวณใหม่เจตนาอะไร เพื่อให้ลูกหนี้ตกใจแล้วต้องรีบมาเคลียร์เซนยินยอม+ดอกเบี้ย+ค่าปรับ รวมเป็นเงินต้น ก่อนพรบ.ใหม่มีผลบังคับใช้กค.66ที่ตามพรบ.ใหม่ให้มีผลย้อนหลังทุกกรณี ที่คิดดอกเบี้ยเงินกู้25สตางค์(ร้อยละหนึ่งสลึง) ไม่มีค่าปรับ/จากที่คิดปัจจุบันร้อยละ7บาท เบี้ยปรับร้อยละ18

4.จากข้อ 3.การเอาระเบียบปี63ในการคำนวณหนี้มาใช้”มีการแจ้งลูกหนี้กยศ.ให้รับทราบอย่างเป็นทางการหรือไม่” และการเร่งรัดตามทวงหนี้ด้วยระเบียบนี้เป็นการเล็งเห็นผลในการที่เร่งลูกหนี้ให้มาเคลียร์แล้วรับสภาพตัวเลขใหม่ที่รวมทั้งหมดเป็นเงินต้นไม่มีดอกเบี้ยไม่มีค่าปรับ(เพราะบวกแล้วเรียบร้อย)หรือไม่
5.จากข้อ4 ทราบใช่มั๊ยว่าลูกหนี้2ล้านกว่ารายที่ยังอยู่ในระหว่างการเคลียร์หนี้หากมาเคลียร์ช่วงก่อนพรบ.บังคับใช้ พรบ.ใหม่ที่มีผลย้อนหลัง เขาไม่ได้ประโยชน์จากพรบ.ใหม่นี้เลย/ถึงขึ้นศาล ศาลก็ต้องยืนตามกฎหมายให้จ่ายเงินต้น…นอกจากความกรุณา
6.จากข้อ 5 ในระหว่างรอยต่อกฎหมายใหม่บังคับใช้ทำไมไม่ชะลอหรือผ่อนปรนบางเงื่อนไข
เช่นให้ลูกหนี้ที่ค้างชำระที่รอจ่ายตามกฎหมายใหม่ไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อไม่ต้องอ้างกฎหมาย ม.157ก็แค่ให้ลูกหนี้มาจ่ายเดือนละ 1,000+.25บาทเพื่อรอกฎหมายใหม่บังคับใช้แค่นี้ก็รอดแล้ว

….คนเป็นหนี้ต้องจ่าย แต่การจ่ายต้องเป็นธรรม…
เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นเงินรัฐที่ลงทุนกับเยาวชนเพื่อการศึกษาที่เป็นอนาคตประเทศชาติ
….กยศ.ไม่ควรจะมีตัวเลขผลกำไรปีละ10,000ล้านเช่นทุกวันนี้

การไกล่เกลี่ยทิพย์ โดยการจับคนมาเซนต์แล้วจ่ายยาว ควรจะหยุดได้แล้ว
///ทั้ง6ประเด็นจะอยู่ในการแลกเปลี่ยนชี้แจงระหว่างกยศ.กับผมครับ ถ้าสะดวกก็ทักมาอีกรอบครับ

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS