‘อัจฉริยะ’ แฉดีเอสไอตบทรัพย์ทุนจีนเพิ่ม – ซัด‘พรีมายา’เลี่ยงภาษี
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำหลักฐานการหลบเลี่ยงภาษี12คนของกรรมการผู้จัดการและเครื่อข่ายพรีมายา มามอบให้ผู้บังคับการปอศ.ตรวจสอบว่า พฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยนายอัจฉริยะ ได้เปิดหลักฐานภาพวงจรปิด ขณะเจ้าหน้าที่อีเอสไอ ก่อเหตุรีบทรัพย์จากกลุ่มทุนจีนสีเทา ย่านรัชดาฯ ห้วยขวาง เหตุเกิด 22 ธ.ค.65 เพิ่มเติมอีก 1 คดี โดยเนื่อหาในคลิปดังกล่าว เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 นาย ได้แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่นิติบุคคลของคอนโด ที่เกิดเหตุเพื่อขอเข้าตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาชาวจีน โดยไม่มีหมายค้นจากศาลอาญาฯ
จากนั้นจึงเข้าไปตรวจค้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงกลับออกมาพร้อมทรัพย์สินบางอย่าง ซึ่งเป็นการตบทรัพย์ต่อเนื่องจาก พื้นที่ทุ่งมหาเมฆ ที่เพิ่งก่อเหตุไปเมื่อช่วงสายวันเดียวกัน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อุจอาจ และตนเคยไปให้ข้อมูลที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ในความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และ ร่วมกันบุกรุก ซึ่งจากนี้ทางตำรวจ สน.ทุ่มหาเมฆ จะต้องส่งข้อมูลต่อให้ ตำรวจ สน.ห้วยขวางดำเนินคดีต่อไป
นายอัจฉริยะ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กลุ่มดังกล่าวจะร่วมกันทำเป็นขบวนการ หลายครั้ง และเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการปล้นบ้านชาวจีน ในพื้นที่ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุม จังหวัดชลบุรี ซึ่งพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน มีการเก็บส่วยทั้ง ธุรกิจบ่อทราย น้ำมันเถื่อน และของเถื่อน เพื่อส่งเงินให้กับผู้บริหารระดับสูงของดีเอสไอ ตนจึงอยากให้มีการเข้าไปตรวจสอบห้องทำงานของผู้บริหารของดีเอสไอ ว่าจะเจอหลักฐานเป็นเงินสดกว่า 100 ล้าน หรือไม่
นายอัจฉริยะ ยังได้นำหลักฐาน การหลบเลี่ยงภาษี ของกรรมการผู้จัดการและเครือข่ายพรีมายา 12 คน มายื่นให้ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. หลังตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าว มีการหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี เพราะรายได้จากการจำหน่ายสินค้า หรือ รายได้อื่นๆ ไม่ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัท แต่กลับโอนเข้าบัญชีส่วนตัว ซึ่งส่อเจตนาว่าเป็นการเลี่ยงภาษี อีกทั้ง บัญชีรรายได้ กำไร ที่มีการนำเสนอนั้น ก็ไม่สอดคล้องกับการเสียภาษีที่ยื่นไป
และจากการตรวจสอบความเคลื่อนไหว ของเม พรีมายา โชว์ในโซเชียลฯ น่าเชื่อว่า เม พรีมายาและสามี น่าจะร่วมกันฟอกเงิน เพราะพฤติกรรมนั้นสวนทางการการยื่นภาษีและรายรับที่ยื่นจ่ายภาษี
โดย เม พรีมายา ได้ร่วมหุ้นกับ ใบเตย อาร์สยาม เปิด คลินิกเสริมความงาม ที่มีทุนการจดทะเบียน 100 ล้านบาท จึงอยากให้ทั้งคู่ออกมาชี้แจงที่มาของเงินทุนเปิด ว่าลงทุนกันคนละเท่าไหร่ และนำเงินมาจากที่ไหน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ลูกโซ่ Forex3D หรือไม่นั้น ต้องให้ ใบเตย ออกมาชี้แจง
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้าย เกี่ยวกับประเด็นที่ มีผู้ออกมาระบุว่า ตนไปตบทรัพย์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะหากเป็นจริง ตนจะมาแจ้งความทำไม อีกทั้งก่อนหน้านี้ตนเคยร้องไปยังตำรวจไซเบอร์ ให้มีการตรวจสอบ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ กรมสรรพากร ตรวจสอบพบว่าเครือข่ายพรีมายา มีการเลี่ยงภาษี มูลค่าหลายร้อยล้าน จริง ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ ปอศ. จะต้องเรียก ทั้งเจ้าหน้าที่ กรมสรรพากร เข้ามาร้องทุกข์ และเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงที่มาของรายได้และการเลี่ยงภาษีต่อไป
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
