ตำรวจ ปอศ.รวบแก๊งป่วยทิพย์โกงเงินประกันโควิดมูลค่าความเสียหาย 2 ล้าน ทำเอกสารปลอม จนบริษัทประกันหลงเชื่อ พบร่วมขบวนการ 23 ราย
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่ายยื่นเคลมเท็จประกันชีวิตโรคโควิดจำนวน 10 ราย ฐานความผิด ฉ้อโกงทรัพย์, ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้อง โดยจับกุม หลายท้องที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จ.ปราจีนบุรี, จ.สมุทรปราการ, จ.สมุทรสาคร
สืบเนื่องด้วยประมาณ เดือนมกราคม ปี 2564 บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีตรวจสอบพบการทุจริตยื่นเอกสารปลอมแจ้งเคลมประกันภัย ขอรับค่าสินไหมทดแทนจากกรณีเจ็บป่วยจากโรคระบาดโควิด 19
เป็นเหตุให้ทางบริษัทหลงเชื่อและจ่ายค่าสินไหมไปจำนวน 10 ราย เสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท บริษัทประกันหลงเชื่อว่าผู้กระทำความผิดมีอาการป่วยจริงจึงจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผ่านบัญชีธนาคารของผู้เอากรมธรรม์ ภายหลังบริษัทประกันภัยได้สอบถามไปยังคลีนิกทางการแพทย์ผู้ออกเอกสารใบรับรองแพทย์ พบว่าเป็นเอกสารปลอม จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารใบรับรองแพทย์ทั้งหมดของผู้กระทำความผิดมาจากคลีนิคทางการแพทย์ชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้กระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่กันทำ คือผู้ทำหน้าที่ชักชวนผู้สนใจมาทำกรมธรรม์ประกันชีวิตโควิด 19 โดยเสนอผลประโยชน์เงินสินไหมทดแทน และขอแบ่งผลประโยชน์ 50-60 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินที่บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหม เมื่อมีผู้สนใจกรมธรรม์ก็จะให้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยยื่นเอกสารสำเนาบัตรประชาชน หน้าสมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอมที่จัดเตรียมให้ ยื่นผ่านช่องทางออนไลน์
เมื่อบริษัทประกันภัยได้ตรวจสอบเอกสารและจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนประมาณ 100,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารแล้ว จะนำเงินมาแบ่งผลประโยชน์กันตามที่ตกลงกันไว้ และจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าคดีนี้
มีผู้กระทำความผิดทั้งหมด จำนวน 23 ราย โดยต่อมาในห้วงวันที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้ระดมจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนี จับกุมได้ในหลายท้องที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดและจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำความผิดที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS