รังสิมันต์ โรม ห่วง! ปัญหาแม่น้ำกก รัฐบาลล่าช้า ไม่ชัดเจน ชี้ นอกจากกระทบกับการท่องเที่ยว ยังไม่ดีกับสุขภาพชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
รัฐบาลทำงาน “ล่าช้า ไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะเอายังไง”
ตอนนี้อย่าว่าแต่ล่าช้าเลย แม้แต่ว่าจะเอายังไงก็ยังไม่มีมาตรการรับมือเรื่องแม่น้ำกกอะไรทั้งสิ้นออกมาจากรัฐบาล มันเป็นไปได้ยังไงที่เราปล่อยให้ค่าสารหนูเกินไปหลายเท่าตัวแล้วแต่ท่านนายกเพิ่งออกมารับทราบปัญหาเมื่อไม่กี่วันนี้ และยิ่งกว่าความไม่ชัดเจนก็ตรงที่รัฐบาลเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับประชาชนยังไงให้ประชาชนสบายใจได้อย่างไร เพราะตอนนี้ไม่มีไทม์ไลน์ ไม่มีแบบแผนว่าจะต้องรับมือยังไง ผมถามตรงๆว่า ประชาชนจะต้องอยู่ไปอย่างนี้อีกนานแค่ไหน
เราทราบกันดีว่าที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ในช่วงของสงกรานต์ที่ผ่านมา พ่อแม่พี่น้องที่ลงทุนสร้างแพเปิดร้านค้าต่างๆ เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับต้องยกเลิกทั้งหมด ชาวบ้านในพื้นที่ก็ยิ่งขาดแหล่งรายได้ สัตว์น้ำตรงนั้นก็ไม่สามารถนำมาบริโภคได้ ทำให้ชาวบ้านขาดแหล่งอาหาร ทั้งหมดนี้คือปัญหาในแม่น้ำกกที่มันส่งผลกระทบทั้งระบบ ผมคิดว่าเราไม่ควรปล่อยให้พี่น้องต้องรอคอยความช่วยเหลือโดยไม่รู้ว่าความช่วยเหลือนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ ที่สำคัญ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวปัญหานี้ก็จะมีแนวโน้มเลวร้ายลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะในเรื่องของปริมาณสารหนูที่อาจจะเพิ่มขึ้นสูงขึ้นกว่านี้ รวมถึงในกรณีที่มีอุทกภัย และอาจจะมีน้ำหลากที่เป็นดินโคลนอย่างรุนแรงคล้ายกับกรณีของแม่น้ำสายอีกครั้งก็ได้
การที่คุณภูมิธรรมออกมาพูดว่าได้คุยกับทางการเมียนมาแล้วแต่เขาไม่ได้สามารถควบคุมได้เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้อยู่ไหนพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการพูดที่ไม่ได้ทำให้ประชาชนสบายใจได้เลย อย่าลืมว่า รัฐบาลมีหน้าต้องทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย แต่การดำเนินการจากรัฐบาลในวันนี้กลับทำให้ทุกคนรู้สึกว่ารัฐบาลทำงานช้ามากในเรื่องการจัดการกับปัญหาความมั่นคงต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสุขภาพพลานามัยของพี่น้องประชาชน
วันนี้ถ้าเราอยากทำให้ปัญหานี้จบถาวร เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้มาตรการในการพูดคุยต่อรองเจรจากับกลุ่มว้าโดยตรง ผมอยากจะแนะนำ ท่านรัฐมนตรีการต่างประเทศ ท่านภูมิธรรม และท่านนายกด้วยว่า หากท่านอยากแก้ไขปัญหานี้จริงๆ ท่านจะต้องคุยกับจีนและกลุ่มว้าโดยตรง และหากกลุ่มว้าเขาไม่ได้สนใจที่จะฟังคำพูดจากเรา เพราะเขาไม่ได้สนใจว่าประชาชนของเราจะเดือดร้อนอย่างไร เราก็จะต้องมีมาตรการตอบโต้จากเบาไปหาหนัก ประเทศไทยจะต้องแสดงจุดยืนว่า เราเห็นว่าปัญหานี้เป็นเรื่องร้ายแรง เราจะไม่นิ่งเฉยต่อเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดต่อไป เพื่อปกป้องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนไทย
เบื้องต้นผมในฐานะประธานกรรมการความมั่นคงฯ และสส.ในพื้นที่อย่าง จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแม่น้ำกกแล้วก็พบว่าประชาชนในพื้นที่เดือนร้อนเป็นอย่างมาก จากสารหนูที่เกินค่ามาตรฐานไปหลายเท่าตัวในแม่น้ำกก เราได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และผู้ว่าของจังหวัดเชียงรายที่ท่านตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขปัญหานี้เป็นอย่างมาก ซึ่งในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ผมไม่แน่ใจว่าคุณภูมิธรรมเข้าใจผิดหรือมีคนแนะนำท่านคลาดเคลื่อน แต่ข้อเสนอเบื้องต้นที่เราได้รับทราบมาอาจจะไม่ถึงขั้นต้องทำเป็นเขื่อน แต่ให้ทำเป็นฝายชั่วคราวได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้สารพิษหัวกระจายไปสู่ส่วนอื่นของแม่น้ำได้จริง ซึ่งเราประเมินว่ามาใช้งบประมาณไม่เยอะและคิดว่าทางจังหวัดจะให้การสนับสนุนเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ก็จะก่อให้เกิดการสะสมของตะกอนที่จับตัวกับสารหนูที่จะต้องถูกนำไปบำบัดจัดการ ซึ่งผมทราบมาว่าในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีศักยภาพที่จะทำได้เอง และต้องส่งออกมานอกพื้นที่ ซึ่งก็ต้องใช้ภาษีของพี่น้องประชาชนจำนวนมากในการจัดการเรื่องนี้
คำถามของผมก็คือทำไมประชาชนไทยจะต้องรับกรรมกับเรื่องของสารหนูในแม่น้ำโขง ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นผู้ที่ก่อปัญหานี้ตั้งแต่แรก แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากการทำเหมืองทองในประเทศเพื่อนบ้านๆ ในเขตของกลุ่มกองกำลังว้า ซึ่งในคลิปวีดีโอที่ผมได้รับจากพี่น้องในพื้นที่ก็ทำให้เราเห็นว่าการทำเหมืองทองได้ทำลายสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นอย่างสิ้นเชิงและไม่มีการควบคุมดูแลใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเราต้องคิดว่าจะมีมาตรการถาวรในระยะยาวร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อจัดการต้นตอของปัญหาของเหมือนทองที่จะทำอยู่ในพื้นที่ของกลุ่มว้าอย่างไรต่อไปครับ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS