พบผู้ติดเชื้อโรคกาฬหลังแอ่น อ.นาน้อย จ.น่าน รวมแล้ว 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย สธ.น่าน เตือนอาการต่อไปนี้ ความรุนแรงของโรคต่างกันในแต่ละบุคคล
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วานนี้(22 ม.ค.67) นายแพทย์วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดน่าน พบมีผู้ติดเชื้อโรคกาฬหลังแอ่น รวม 9 ราย ในพื้นที่ อ.นาน้อย ตำบลนาน้อย จำนวน 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้สูงอายุ 70 ปี ได้รับเชื้อจากหลาน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังพ้นโทษเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา หลังได้รับเชื้อมีอาการเป็นไข้ และสมองอักเสบ เสียชีวิต และพบในพื้นที่อำเภอเมือง ตำบลผาสิงห์ และตำบลบ่อสวก รวมจำนวน 7 ราย เป็นผู้สูงอายุ 64 ปี จำนวน 1 ราย และเด็กอายุ 11 และ 12 ปี จำนวน 2 ราย
สอบสวนโรคพบว่า ทั้งหมดอาศัยอยู่บ้านแบ่งห้องเช่าในหลังเดียวกัน และมีการตั้งวงทานอาหาร สังสรรค์ร่วมกัน ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการให้ยารักษา แยกกักตัว พร้อมกับให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว และติดตามกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติด และต้องสงสัยป่วยด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นเพิ่มเติม
สำหรับ โรคไข้กาฬหลังแอ่น เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อได้หลายทาง ได้แก่ การสัมผัสใกล้ชิด การหายใจโดยการไอ จาม ระยะฟักตัว 2-10 วัน โรคไข้กาฬหลังแอ่น มีลักษณะที่สำคัญ 3 อย่าง คือ มีไข้ เป็นผื่น และลุกลามเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยอาจมีอาการครบทั้ง 3 อย่าง หรือ 2 จาก 3 อย่างนี้ ความรุนแรงของโรคแตกต่างกันได้มาก อาจมีอาการค่อยเป็นค่อยไป จนถึงรุนแรงรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานในร่างกายของแต่ละคน ซึ่งเด็กและผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้มีโรคประจำตัว ควรระวังเป็นพิเศษ
โดยวิธีสังเกตอาการโรค คือ ผู้ป่วยมักจะมีไข้มาก่อนประมาณ 2-3 วัน มีผื่นขึ้น ลักษณะเป็นจ้ำเลือดเหมือนฟกช้ำ ผื่นอาจมีรูปร่างคล้ายดาวกระจาย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ มักเป็นบริเวณลำตัวส่วนล่าง ขา เท้า หรือมือได้ หากมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จะมีอาการ ได้แก่ ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง อาจซึมลง ไม่ค่อยรู้สึกตัว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคไข้กาฬหลังแอ่น ที่พบในจังหวัดน่านขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมโรคไว้ได้ แต่ขอฝากแจ้งเตือนประชาชนให้รักษาสุขอนามัย การปฏิบัติตัวแบบ new normal ด้วยการล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการไข้ ไอ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ยังคงป้องกันโรคต่างๆ ได้ดี และหากสงสัยมีอาการข้างต้นให้รีบพบแพทย์ทันที
เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
