สมาคมชาวนา เผยผลประชุมแก้ปัญหาราคาข้าว ชี้ มาตรการทั้งหมดยังไม่สามารถแก้ความเดือดร้อนได้ ขอให้ทบทวนและวางมาตรการใหม่
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ออกแถลงการณ์สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย โดยมีเนื้อหาระบุว่าตามที่สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2568 โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุม และได้ร่วมพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านราคาข้าวนาปรังปีการผลิต2568 ดังนี้
1.ขยายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ระยะเวลา 1-5 เดือน ในพื้นที่ 72 จังหวัด ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13 ล้านบาท
2.การเพิ่มช่องทางการตลาดในประเทศโดยเปิดจุดรับซื้อ รัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท ผู้ประกอบการช่วยซื้อในราคานำตลาด 300 บาทต่อตัน เป้าหมาย 300,000 ตัน ในพื้นที่ 72 จังหวัด งบประมาณ 150 ล้านบาท เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ต้องการจะขายเลย
3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกข้าว ช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการ 6% สำหรับผู้ประกอบการเก็บสต็อก 2 – 6 เดือน และผู้ประกอบการรับซื้อราคาสูงกว่าตลาด 200 บ./ตัน ขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40 ล้านบาท โดยทั้ง 3 มาตรการ ใช้งบประมาณรวม 1,893.53 ล้านบาท นั้น
สมาคมชาวนนาและเกษตรกรไทย ชี้แจงรายละเอียด ข้อจำกัด และขีดความสามารถของมาตรการดังกล่าวถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับการใช้งบประมาณ การเปิดช่องโอกาสให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย รวมถึงความไม่พร้อมในเรื่ององค์ประกอบในสถาบันที่ร่วมโครงการ และที่สำคัญ มาตรการต่างๆ ยังไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ
“สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จึงมีมติเห็นพ้องร่วมกันว่า มาตรการทั้งหมด มิได้ตอบสนองความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยแท้จริง จึงขอให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ทบทวนและวางมาตรการใหม่ตามที่เกษตรกรร้องขอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และป้องกันการสุ่มเสี่ยงทางเสถียรภาพของรัฐบาล
นายปราโมทย์กล่าวว่า สมาคมชาวนาฯ ต้องการให้เสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำนาปรังปีการผลิต 2567/68 ตามมาตรการดังต่อไปนี้ คือ
1.ขอให้ภาครัฐพิจารนา มาตรการประกันราคาผลผลิตข้าวเปลือกจ้าวในฤดูนาปรังปีการผลิต 2568 โดยความชื้นไม่เกิน 15% ราคาไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท/ตัน และความชื้นไม่เกิน 25% ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน
2.ขอให้ภาครัฐพิจารนา มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีงดเผาตอซังฟางข้าว ไร่ละ500 บาท ตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้
3.ขอให้ภาครัฐควบคุมปัจจัยการผลิต เช่นปุ๋ย ยา และน้ำมันเชื้อเพลิง
4.ขอให้ภาครัฐพิจารนาหาแนวทางชดเชยพื้นที่เกษตรกรที่ใช้เป็นทุ่งรับน้ำ ตามที่เกษตรกรร้องขอ
5.ขอให้ภาครัฐพิจารนาโครงการไร่ละ1000 ให้ยังคงเดิม อันเป็นการวางมาตรการความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนการผลิต
ทั้งนี้ในการดำเนินโครงการต่างๆ ภาครัฐต้องพิจารนาถึงกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเก็บเกี่ยวไปแล้วให้ได้รับสิทธิ์ในมาตรการดังกล่าวทุกมาตรการ โดยเท่าเทียมกัน
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS