คำเตือนมาแล้ว!! เวียดนามแซงไทย ขึ้นเบอร์หนึ่งนักท่องเที่ยวจีน

วรวุฒิ เตือนรัฐบาลใหม่ อย่าชะล่าใจ หลังเวียดนามแซงไทย ขึ้นเบอร์หนึ่งนักท่องเที่ยวจีน

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ หลังเวียดนามก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีนในอาเซียน แซงหน้าไทยและมาเลเซียอย่างชัดเจน ถือเป็น “สัญญาณอันตราย” ที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งหามาตรการแก้ไข เพราะการท่องเที่ยวคือเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของไทย แต่กลับซบเซาลงอย่างน่าตกใจ

“รัฐบาลใหม่ต้องมองปัญหาให้ออก และลงมืออย่างจริงจัง การท่องเที่ยวไทยต้องปรับตัวใน 3 เรื่องหลัก คือ หนึ่ง ฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย จัดการปัญหาอาชญากรรมที่กระทบนักท่องเที่ยวโดยตรง สอง ยกระดับคุณภาพบริการและการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาจีน และสาม สร้างกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ ไม่ใช่ขายแค่ภาพจำแบบเดิม ๆ” นายวรวุฒิกล่าว

ข้อมูลล่าสุดสะท้อนถึงความท้าทายที่ไทยกำลังเผชิญ ปี 2568 เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 14 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนเติบโต 44% เมื่อเทียบปีก่อน ส่งผลให้ไทยสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนราว 3.5 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจโรงแรมไทยรายได้หดตัว 4.5% และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมลดลง 7%

หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ไม่นิยมพึ่งทัวร์ และยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย หลังเกิดเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวโยงคนจีนในไทย ตรงกันข้ามกับเวียดนามที่เดินหน้าสร้างความประทับใจ เช่น เทศกาลพาราไกลดิ้ง–บอลลูนลมร้อนในกว๋างนิญ และบริการภาษาจีนในเมืองท่องเที่ยว ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 51% และคาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวได้ถึง 22.6 ล้านคนในปีนี้

ไทยเองพยายามฟื้นตลาดจีนด้วยโครงการ “หนีห่าว มันธ์” ในช่วงไฮซีซันปลายปี 2568 และกิจกรรมส่งเสริมใน 5 เมืองหลัก รวมถึงความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม OTA และพันธมิตรธุรกิจจีน–ไทย

อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 8 เดือนแรกปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยอยู่ที่ 23 ล้านคน ลดลง 7% เมื่อเทียบปีก่อน ขณะที่มาเลเซียกลับได้อานิสงส์จากนโยบายยกเว้นวีซ่าและค่าเงินริงกิตอ่อนค่า ดึงนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นถึง 35%

นายวรวุฒิ ย้ำว่า หากไทยยังนิ่งเฉย การท่องเที่ยวจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปเรื่อย ๆ “นี่ไม่ใช่เรื่องตัวเลขนักท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่คือการจ้างงาน เศรษฐกิจฐานราก และภาพลักษณ์ของประเทศ รัฐบาลใหม่ห้ามชะล่าใจ ต้องลงมือทันที”

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS