กรมควบคุมโรค เตือน ดูแลบุตรหลาน โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ ให้เฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัส RSV เหตุยังไม่มียารักษาโดยตรง เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ตั้งแต่สิงหาคม-พฤศจิกายน มีโอกาสพบโรคติดต่อได้หลายโรค หนึ่งในนั้นคือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี เพราะ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปี ถึง 2 กันยายน พบว่า ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ จำนวน 1,445 คน มีผลตรวจพบเชื้อ RSV จำนวน 131 คน โดยพบเชื้อมากที่สุด ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
โรคนี้ติดต่อจากการสูดละอองฝอยที่ปนเปื้อนเชื้อ ผ่านการไอ จาม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก ปาก ผู้ที่ได้รับเชื้อจะแสดงอาการได้เร็วที่สุด หลังจากติดเชื้อ 2 วัน ช้าสุดประมาณ 8 วัน ผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ
สำหรับการติดเชื้อในกลุ่มเด็กเล็ก โรคมีโอกาสลุกลามไปยังระบบทางเดินหายใจส่วนล่างได้ เช่น หลอดลม เนื้อปอด ทำให้เกิดอาการหลอดลมใหญ่อักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดอักเสบตามมาได้ ซึ่งในระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการเพียงเล็กน้อย คล้ายกับโรคไข้หวัด เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หากมีอาการรุนแรงจะมีอาการหายใจเร็ว หอบเหนื่อยเนื่องจากปอดอักเสบ เสียงหายใจมีเสียงหวีด เสียงครืดคราดในลำคอ รับประทานอาหารได้น้อย ซึมลง และอาจเสียชีวิตได้
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อไวรัส อาร์เอสวีโดยตรง โดยจะเป็นการรักษาตามอาการ และที่สำคัญไม่ใช่แค่เด็กเล็ก แต่โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ แต่กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรง คือ เด็กเล็ก เด็กที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง