อ.เจษฎา เผยโซเชียลแตกตื่นบิลค่าไฟปลอม นึกว่าจากมิจฉาชีพ แท้จริงไม่ใช่ การไฟฟ้าฯ ชี้แจงไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
มีการแชร์รูปของบิลค่าไฟฟ้าตามบ้าน พร้อมกับข้อความเตือนภัย ทำนองว่า “ห้ามสแกนจ่ายเงินใบแจ้งเตือน ใบสีฟ้า นะ เพราะพอสแกนจ่าย เงินในบัญชีธนาคารของท่าน ก็จะหายหมดบัญชีธนาคารเลย ตอนนี้พบการปลอมแปลงใบแจ้งเตือน ก่อนหน้านี้ที่ระยอง ตอนนี้ลงมานาหม่อมแล้ว …” !?
อันนี้ผู้โพสต์ น่าจะเข้าใจผิดและตื่นกลัวกันไปเอง เพราะใบแจ้งค่าไฟของจริงนั้น ก็มีแบบที่เป็น “สีฟ้า” ซึ่งเป็นใบแจ้งเตือนค่าไฟฟ้าค้างชำระ .. จึงควรที่จะชำระเงินให้ครบถ้วนก่อนที่จะถูกตัดไฟฟ้า (และแม้ว่าจะมีใครแอบทำบิลปลอมหลอกให้เราแสกน มันก็ไม่สามารถจะดูดเงินหมดบัญชีได้ อย่างที่แชร์กันครับ)
เดี๋ยวนี้ การไฟฟ้าจะออก “ใบแจ้งเตือนค่าไฟฟ้าค้างชำระ” ซึ่งเป็นสีฟ้า และจะมีขนาดเล็กกว่า “ใบแจ้งค่าไฟฟ้า” ซึ่งมีสีม่วง เนื่องจากมีการค้างชำระไฟฟ้าเกิดขึ้น … ซึ่งถ้ารู้ตัวอยู่แล้ว ว่าค้างชำระค่าไฟอยู่ แล้วได้รับใบแจ้งเตือนนี้ ก็ขอให้ไปชำระค่าไฟฟ้าตามปรกติ (แต่ถ้าชำระแล้ว ยังเจอใบแจ้งเตือน ก็เก็บใบไว้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่อีกทีหนึ่ง
ในขณะที่ ตัวของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเองนั้น ก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ รวมเอาใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี เป็นฉบับเดียวกันด้วย เพื่อลดโลกร้อนและลดกระดาษ ซึ่งจะเริ่มใช้พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2567 เป็นต้นไป
สำหรับเรื่องนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ได้เคยโพสต์ชี้แจงในเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=789413403220180&set=a.304304071731118&type=3
ระบุว่า ใบแจ้งค่าไฟฟ้า นั้นต่างกับ ใบแจ้งเตือนค่าไฟฟ้าค้างชำระ อย่างไร ? กล่าวคือ
-“ใบแจ้งค่าไฟฟ้า และใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี” (รูปแบบใหม่) ผู้ใช้ไฟฟ้าจะได้รับตามรอบการใช้ไฟฟ้า โดยมีระยะเวลาในการชำระเงิน ตามวันที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้า 10 วัน
-“ใบแจ้งเตือนค่าไฟฟ้าค้างชำระ” เป็นการแจ้งเตือนกรณีมีค่าไฟฟ้าค้างชำระ จะจัดส่งให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า หลังจากวันครบกำหนดในใบแจ้งค่าไฟฟ้า มีกำหนดชำระเงิน 7 วัน
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า นี่อาจจะทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าหลายคน เกิดความสับสน ว่าบิลค่าไฟที่ได้มานั้นจะเป็นของปลอม ของมิจฉาชีพหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากเกิดความสงสัย ก็สามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้าได้โดยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชัน PEA Smart Plus หรือ โทร. 1129 เพื่อติดต่อ PEA Contact Center หรือไม่งั้น ก็เดินทางไปสอบถามด้วยตนเองได้ที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่ของแต่ละคนครับ
และถ้ายังสงสัยว่าบิลค่าไฟฟ้าที่ได้มานั้น เป็นปลอมหรือไม่ ให้ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อนามสกุลผู้ใช้ เลขที่บ้าน เลขรหัสการไฟฟ้า รหัสเครื่องวัดที่บ้าน ฯลฯ ที่ระบุในบิลนั้น ตรงกับความเป็นจริงหรือไม่
รวมทั้งมีพบคนแอบอ้างมาเรียกเก็บค่าไฟฟ้า ถึงที่บ้าน และขู่ว่าต้องชำระทันที เช่น อ้างว่าจะถอดหม้อไฟออก ให้สงสัยได้ว่าคนนั้นอาจจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะการไฟฟ้าไม่มีนโยบายที่จะออกไปเก็บค่าไฟฟ้าถึงที่บ้าน
เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS