Connect with us

News

พรหมลิขิต แค่ตอนแรกก็ติดงอมแงม!! นักวิชาการอิสระ เผย ละครสะท้อนจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ

Published

on

ภัทร เหมสุข ชื่นชม พรหมลิขิต ละครประวัติศาสตร์น้ำดี ซ้ำมีเหตุการณ์เปลี่ยนรัชกาลที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

วันนี้ตอนสองทุ่มครึ่งเหมือนโลกหยุด งานการไม่ต้องทำกันแล้วเพราะทุกคนอยากดูตอนแรกของ พรหมลิขิต ep1 ถ้าทุกคนหยุดผมก็ต้องหยุดด้วย ทำงานอยู่คนเดียวดูเหมือนเป็นคนทำตัวขวางโลก

วันแรกดูก็รู้เลยว่าเป็นละครที่ทำดี ทุ่มทุนสร้างสูงกว่าภาคแรก นักแสดงรับเชิญเยอะไปหมด เชิญใครเขาก็อยากจะมาเล่นให้ละคนเรื่องนี้ ทั้งนายทุนและนักแสดงก็คงรู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เงินอย่างเดียวที่ได้ แต่ชื่อเสียงและเรตติ้งที่ได้รับกลับมาสูงมาก เพราะรีรันภาคแรกก็ได้รับการต้อนรับที่ดีทุกครั้ง ดูกี่รอบก็ยังมีคนตามดูกัน ไม่รวมถึงภาคแยกที่ทำฉายในโรงภายนต์ที่โดดข้ามมาในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีตัวละครเด็ดๆ ที่มีจริงทางประวัติศาสตร์หลายคนทั้งไทยและฝรั่ง (ผมถึงกับหัวเราะให้เงียบที่สุดตอนที่สุนทรภู่อ่านมนต์กฤษณะกาลี 555)

ในละครวันนี้คนที่รักประวัติศาสตร์จะดูละครสนุกกว่าคนที่ไม่สนใจ เพราะเป็นช่วงที่ผลัดรัชกาลจากสมเด็จพระนารายณ์ มาเป็น พระเพทราชา และเป็นการเปลี่ยนราชวงค์จาก ราชวงค์ปราสาททองมาเป็นราชวงค์บ้านพลูหลวง ซึ่งในประวัติศาสตร์เป็นตอนที่น่าสนใจมาก

การเปลี่ยนรัชกาลนั้น ในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยามีเรื่องน่าสนใจมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม ปลายราชวงค์สุโขทัยแล้ว มีการปราบดาภิเศก หรือในสมัยนี้เรียกว่ารัฐประหาร มีกันมาตลอดหลังจากสิ้นรัชกาลพระเอกาทศรถ พระเจ้าทรงธรรมก็ทำให้บ้านเมืองสงบไปเกือบยี่สิบปี แล้วก็กลับไปเป็นแบบเดิมในการแย่งอำนาจ เปลี่ยนสองรัชกาลในเวลาไม่ถึงสองปี พระเจ้าปราสาททองก็ยึดอำนาจ เปลี่ยนราชวงค์จากสุโขทัยมาเป็นราชวงค์ปราสาททองจนบ้านเมืองสงบมา 25 ปี แล้วก็กลับไปเป็นแบบเดิมอีก เกมของอำนาจก็ถูกเล่นอีกรอบ เปลี่ยนไปสองรัชกาลในเวลาไม่ถึงปี จนถึงพระนารายณ์ขึ้นครองราชแบบปราบดาภิเศกกันอีกรอบ บ้านเมืองสุขสงบไปสามสิบกว่าปี

ในละครตอนที่เล่นวันนี้เป็นตอนที่ พระเพทราชาปราบดาภิเษกหลังการสิ้นพระชมน์ของพระนารายณ์ ซึ่งในประวัติศาสตร์มีเรื่องราวน่าสนใจมาก และน่าสนใจไปจนถึงรัชกาลพระเจ้าท้ายสระเลยก็ว่าได้ ถ้าให้ตัวละครอีกตัวคือ ท้าวทองกีบม้า หรือ แม่มะลิ มารี กีมาร์ เพือนรักของแม่การะเกตเป็นตัวเดินเรื่อง ที่แม่การะเกตใบ้ในละครตอนนี้ว่า “จบสวย” ก็ในรัชกาลพระเจ้าท้ายสระนี้แหละครับที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต เอาไว้ผมจะมาเขียนภาคแยกของเธอให้อ่านกัน ชีวิตของเธอนั้นสนุกมาก สนุกมาตั้งแต่สมัยยายของเธอและแม่ของเธอ

ละครวันนี้มีการเล่าประวัติศาสตร์กันอีกเรื่องคือตอนที่ พระปีย์ ตายอนาถ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติกันมาตั้งแต่ที่ผมบอกว่าการเปลี่ยนแผ่นดินนั้นน่าสนใจมาตั้งแต่ปลายราชวงค์สุโขทัยในสมัยพระเจ้าทรงธรรมแล้ว อย่าเอาปกติมาตรฐานของคนสมัยใหม่เข้าไปจับกับปกติมาตรฐานของคนเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน ถ้ามองประวัติศาสตร์และยอมรับว่าการประหาร ควีนแมรีแห่งสก็อตโดยควีนอลิซาเบธที่ 1 สามารถทำได้และมองว่าเป็นปกติของเกมอำนาจในการสร้างสมดุลอำนาจของราชวงค์ทิวดอร์ที่มีต่อราชวงค์สจวต ก็ควรมองว่าเรื่องของเกมอำนาจช่วงชิงราชบัลลังค์ในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาก็ไม่ต่างกันกับในยุโรป

ในละครวันนี้เป็นไปตามบันทึกของฝรั่งเศสและอีกหลายบันทึกที่มีการพูดถึงการผลัดแผ่นดินที่ใกล้เคียงกัน พระนารายณ์ทรงนอนประชวรอยู่ ส่วนพระปีย์ที่นอนเฝ้าอยู่ท้ายพระที แล้วพระปีย์โดนโยนออกนอกหน้าต่างมือยังถือไม้สีฟันอยู่เลย แล้วต่อมาก็โดนพระเพทราชาจับไปประหารแล้วทิ้งศพแบบอนาถาเอาไว้ที่วัดซาก โดยในเวลานั้นกองกำลังของพระปีย์ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะทั้งหมดยังอยู่ที่เมืองสองแคว ไม่ได้เข้ามาตามคำสั่งของพระนารายณ์สมัยที่ยังครองราชอยู่ เพราะทรงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีกองกำลังของพระปีย์จากเมืองสองแคว

หลังจากที่พระปีย์โดนจัดการให้พ้นทางในราชบัลลังค์ของพระเพทราชา พระนารายณ์ทรงตื่นขึ้นมาแล้วทรงเสียใจมาก ถึงกับบริภาษพระเพทราชาและขุนหลวงสรศักดิ์ที่ต่อมาคือพระเจ้าเสือที่ครองราชต่อมาในอีกสองรัชกาล ในเวลานั้นพระนารายณ์ยังไม่สวรรคตโดยเร็วตามในละคร แต่อยู่ต่อมาอีกสามเดือนจึงสวรรคต แต่ในพระราชพงศาวดารบางฉบับที่เขียนภายหลังได้บอกว่าพระนารายณ์สวรรคตหลังจากที่ทรงตรัสร้องขึ้นว่า “ใครทำอะไรกับไอ้เตี้ยเล่า” แล้วก็ทรงแน่นิ่งสวรรคตไป

หลังจากนั้นในรัชกาลของพระเพทราชาก็มีการกวาดล้างฝรั่งเศสกับยกใหญ่จนไม่เหลือฝรั่งเศสในกรุงศรีอยุทธยา แม้แต่ขุนนางเก่าก็ไม่เว้น ขุนนางตัวจริงบางคนในฉากละครวันนี้ก็ต้องตายในวันหน้า บางคนที่รอดในรัชกาลนี้ ก็ตายอนาจในรัชสมัยของพระเจ้าเสือที่เกลียดฝรั่งมากกว่าพระเพทราชาเสียอีก

การเมืองในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาก็เป็นแบบนี้แหละครับ กุดหัวกันเป็นว่าเล่นทั้งรัชทายาทและขุนนางของอีกฝ่าย ทำต่อเนื่องกันมาสี่ห้ารัชกาลจนไม่เหลือคนดีมีความสามารถมารับราชการสืบต่อกันมาจนเสียกรุงครั้งที่สอง

สิ่อย่างหนึ่งต้องขอชมเชยในละครคือคอสตูม ภาคแรกว่าผ้าสวยๆ โดนใจแล้ว ภาคนี้โดนใจกว่ามาก ผ้าแต่ละชิ้นสวยๆ แพงๆ ทั้งนั้น และนุ่งห่มไม่แหกซีน แหกความจริงของขนบการแต่งตัวตามยุค ไม่รู้ว่าภาคนี้หยายังดูคอสตูมให้เหมือนเดิมภาคแรกหรือเปล่า

เอาเป็นว่าละครวันแรกก็เล่นงานจนผมติดงอมแงมไปแล้วล่ะ ทั้งที่ตัวเองไม่ดูช่องสามมาหลายปี

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: