ปวิน ในฐานะที่อยู่ญี่ปุ่น เล่ามุมมองทำไมญี่ปุ่นเกลียดต่างชาติ ฝากถึงคนมาเที่ยว เข้าใจบริบทสังคมได้ ค่อยเดินทางต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกียวโต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
การใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณรู้วิธีอยู่ ญี่ปุ่นคือความลงตัวในหลายๆ เรื่อง และแม้ดิชั้นจะมีอุปสรรคบ้างในการดำรงชีพ แต่ดิชั้นรักประเทศนี้ค่ะ อย่างที่เรารู้กัน ญี่ปุ่นมีความเป็น homogeneous สูงมาก จะแปลว่าอะไรดี แปลว่าประเทศหรือสังคมที่คนมีคุณสมบัติเหมือนกันสูงมาก ฟังอาจจะงงๆ ดิชั้นชอบใช้คำว่า มีความเป็น “ชาติพันธุ์เดี่ยวสูง” ส่วนหนึ่งเพราะภูมิประเทศที่เป็นเกาะ นั่นหมายถึง การเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมที่ต่างออกไปจึงมีโอกาสเกิดความขัดแย้ง การไม่ยอมรับ การปฏิเสธ เพราะคนญี่ปุ่นคิดว่า ความต่างเหล่านั้นมันจะทำให้สังคมญี่ปุ่นแตกหัก แตกแยก และขาดบูรณาการ
…ตอนดิชั้นมาอยู่ที่ญี่ปุ่นในปี 1995 ความเป็นต่างชาติเข้ามาถึงญี่ปุ่นไม่เท่าทุกวันนี้ ร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร หลายแห่งยังติดป้ายว่า “ไม่ต้อนรับต่างชาติ” นี่อาจไม่ใช่การเกลียดคนต่างชาติซะทีเดียว แต่คนญี่ปุ่นไม่อยากต้องดีลกับคนต่างชาติที่ไม่สามารถพูดญี่ปุ่นได้ เพราะภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นไม่แข็งแรง (ส่วนหนึ่งก็เพราะความเป็น homogeneous ที่สูงของตัวเองนั่นเองแหละ) อะไรที่เป็นต่างชาติจะมองให้เป็นอย่างอื่น (other) ทันที สมัยก่อน บัตรประจำตัวคนต่างชาติยังเรียกว่า alien card เลย คือคนต่างชาติคือเอเลี่ยน รวมถึงคำอย่าง gaijin ที่ใช้เรียกคนต่างชาติ ที่แปลว่า outsider อะไรแบบนี้ แต่อันนี้ก็ไม่ใช่ความรู้ใหม่ ดิชั้นเชื่อว่า คนที่คุ้นเคยกับประเทศนี้ก็คงได้ยินเรื่องที่ดิชั้นเล่ามาก่อน
…ทุกวันนี้ สังคมญี่ปุ่นเปิดกว้างมากขึ้น อย่างเมืองเกียวโตที่นักท่องเที่ยวมโหฬาร คนท้องถิ่นก็เริ่มพูดอังกฤษได้ ถนนหนทางมีป้ายภาษาอังกฤษ อาจจะไม่เปิดกว้างเท่าประเทศ non-English speaking อื่นๆ แต่สถานการณ์ในญี่ปุ่นก็ดีกว่าเดิม แต่เรื่องมุมมองของญี่ปุ่นต่อต่างชาติไม่ได้เป็นแค่เรื่องทางสังคม มันเอาไปผูกกับการเมืองและเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นพบกับ dilemma ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ขาดแรงงานแต่ก็ไม่อยากรับแรงงานต่างชาติ ประชากรลดลงแต่ก็ไม่อยากรับการบูรณาการของคนต่างถิ่น คือยังไงอ่ะ อยากเปิดแต่ก็ไม่เปิดเต็มที่ จะปิดก็ไม่ได้ ไอ้ dilemma แบบนี้มันเปิดโอกาสให้นักการเมืองใช้กระแสชาตินิยมเพื่อผลทางคะแนนนิยม และมันไม่ใช่เกิดแค่ญี่ปุ่น มี MAGA ในอเมริกา หรืออย่างที่อังกฤษที่ Brexit ก็มีฐานความคิดแบบนี้ ไอ้ dilemma นี้ในญี่ปุ่นมันไปเพิ่มความเกลียดชังต่างชาติโดยปริยาย
…อย่างที่ดิชั้นเขียนเมื่อคืน อยู่มา 13 ปีจนความคิดกลายเป็นญี่ปุ่นหลายเรื่อง เรื่องที่รู้ตัวเลยว่าเราเป็นญี่ปุ่นไปแล้วก็คือเรื่องมารยาททางสังคมในพื้นที่สาธารณะ ดิชั้นจะไม่กล้าทำเสียงใดๆ ทั้งสิ้นบนรถไฟ ดิชั้นไม่กล้าข้ามถนนเมื่อมีสัญญาณไฟแดงแม้ถนนจะโล่ง ดิชั้นไม่กล้าทิ้งขยะในที่ที่ไม่ควรทิ้ง ไม่กล้าเด็ดดอกไม้ริมทาง นี่เป็นสังคมที่คนเคารพทั้งธรรมชาติรอบตัว และในการทำอย่างนั้น ก็คือการเคารพคนในสังคมโดยอัตโนมัติ ดังนั้น เขียนมาซะยาว เรื่องอินฟลูตลาดล่างของไทย ถอดเสื้อ ยืนเต้นบนรถ ในสถานที่ที่พลุกพล่านแบบนั้น มันเป็นอะไรที่แย่ ผิดทั้งในแง่จารีต และจริงๆ ทางกฎหมายด้วยนะ ชาวบ้านแถวนั้นเอือมระอานักท่องเที่ยวตลาดล่างแบบนี้ มันทำให้เสียหายไปหมด เสียหายทั้งความเป็นคนไทย และภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวโดยรวม เราเคยบอกกันแล้วว่า การเดินทางไปไหน ต้องเคารพหลักปฏิบัติของประเทศนั้นๆ นักท่องเที่ยวที่มาไทยใส่กระโปรงสั้นในวัดไทยยังโดนด่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา คืออยากบอกว่า ถ้ายังไม่พร้อมเรื่องมารยาท ควรเที่ยวแค่ในเมืองไทยก่อน แล้วเมื่อไหร่ที่เริ่มมีการศึกษามากขึ้น เข้าใจความแตกต่างระหว่างสังคมเรากับสังคมอื่น เมื่อนั้นค่อนเดินทางต่างประเทศนะคะ คือมีเงินกับพาสปอร์ตไม่ได้ทำให้คุณเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพค่ะ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS