ฟูอาดี้ ร่ายยาวส่งกำลังใจให้อังคณา ยกตัวอย่างกรณีอิสราเอลมีศักยภาพทางทหาร แต่แพ้ในเรื่องการสร้างความชอบธรรม บนเวทีระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ อดีตทีมที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เป็นกำลังใจให้คุณอังคณา Angkhana Neelapaijit ครับ
พอดีเพิ่งสอนและอภิปรายกับนักศึกษาในคลาสเรื่องสงครามแห่งอนาคตและศีลธรรมไปเลย ประเด็นการใช้ “เสียง” เป็นอาวุธ (ในลักษณะที่เกิดขึ้นจริง) ถือเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน เพราะเป็นการโจมตีแบบ indiscriminate คือไม่เลือกเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้ได้รับผลกระทบอาจเป็นพลเรือน และที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นอาจรวมถึงเด็ก คนชรา หรือผู้ป่วย ซึ่งตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศถือเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการคุ้มครองและยกเว้นจากการโจมตี การกระทำใด ๆ ในสงครามจึงจำเป็นต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและอยู่ภายใต้หลัก distinction และ proportionality อย่างเคร่งครัด
ในเชิงวิชาการ มีแนวคิดหนึ่งที่อธิบายการเปลี่ยนแปลงของลักษณะสงครามสมัยใหม่ว่าเป็นการ “shift” จากสิ่งที่อาจเรียกว่า territorial realism ไปสู่ networked globalism กล่าวคือ เป้าหมายของสงครามในยุคปัจจุบันไม่ใช่เพียงการยึดครองพื้นที่ทางกายภาพอีกต่อไป แต่คือการควบคุมและช่วงชิงเครือข่ายของข้อมูล ความคิด และความชอบธรรม ซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นระบบระดับโลก ชัยชนะในสงครามยุคใหม่จึงถูกตัดสินจากความสามารถในการสร้างเครือข่ายและการได้รับการยอมรับในความชอบธรรมมากกว่าฝ่ายตรงข้าม
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีของอิสราเอล ซึ่งแม้จะมีอำนาจและศักยภาพทางการทหารในการยึดครองพื้นที่ แต่กลับพ่ายแพ้ในมิติของ “การควบคุมเครือข่าย” และ “การสร้างความชอบธรรม” บนเวทีระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากผลการลงมติของสหประชาชาติที่ประณามการกระทำของอิสราเอลในหลายวาระ
ดังนั้น ไม่เพียงแต่การปล่อยให้ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actor) ดำเนินการตามอำเภอใจจะขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลเท่านั้น แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสงครามสมัยใหม่ การกระทำเช่นนั้นอาจย้อนกลับมาส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเองด้วย โดยเฉพาะเมื่อสื่อสากลนำเสนอและผลิตซ้ำภาพลักษณ์เชิงลบจากการกระทำของตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐฝั่งไทย ซึ่งย่อมส่งผลต่อ “การสร้างเรื่องเล่า” (narrative construction) ในเชิงลบต่อประเทศไทย ปัญหานี้สะท้อนข้อจำกัดของประเทศไทยในการดำเนินยุทธศาสตร์ภายใต้บริบทของสงครามยุคใหม่ ที่การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่อำนาจการทหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่ “เครือข่าย” และ “ความชอบธรรม” (networks and legitimacy)
สิ่งเดียวที่พอจะปลอบใจได้ คือ กัมพูชาเองก็ยังไม่สามารถ “ควบคุมเครือข่าย” หรือ “สร้างความชอบธรรม” บนเวทีระหว่างประเทศได้ดีนัก เนื่องจากกำลังเผชิญกับวิกฤตความน่าเชื่อถือจากปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศของตนเอง…
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS