วิโรจน์ สงสัย จะมีคนได้ประโยชน์?? มอก.24-2559 ไปรับรองการผลิตเหล็กด้วยเตาอินดักชั่น ที่จีนห้ามตั้งแต่ปี 60
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
[กรณีเหล็กเส้นที่ใช้ก่อสร้างอาคาร สตง. ทำไมอยู่ดีๆ มอก.24-2559 จึงไปรับรองการผลิตเหล็กด้วยเตาอินดักชั่น ซึ่งจีนห้ามใช้ตั้งแต่ปี 2017 ทำให้โรงงานผลิตเหล็กที่จีนโละทิ้ง ย้ายมาตั้งที่ประเทศไทย]
จากเหตุการณ์อาคาร สตง. พังถล่ม ปมประเด็นที่ต้องสอบสวน สืบสาวราวเรื่อง คงหนีไม่พ้น “การทุจริตคอร์รัปชั่น” ที่มีข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวพันกับการล็อคสเป็ค และหยิบยื่นผลประโยชน์ให้กับผู้บริหารระดับสูงของ สตง. หรือแม้แต่ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. ซึ่งประเด็นข้อสงสัยทั้งหมดตั้งแต่กระบวนการการว่าจ้างผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา และผู้ควบคุมงานก่อสร้าง มีความจำเป็นต้องมีการสืบสวนสอบสวน อย่างละเอียด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยไม่สามารถตัดตัวละครตัวใดตัวหนึ่งออกไปได้
อีกเรื่องหนึ่งที่สื่อมวลชนติดตามเกาะติดมาโดยตลอด ก็คือ กรณีคุณภาพของเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร สตง. ซึ่ง เบื้องต้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 68 สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (ITSI) ได้แถลงผลตรวจสอบเหล็กตัวอย่างที่เก็บจากซากอาคาร สตง. ถล่ม และพบเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐาน โดยมาตรฐาน มอก.24-2559 ระบุมาตรฐานของเหล็ก SD50 เอาไว้ว่า จะต้องมีความต้านแรงดึงที่จุดคราก (จุดที่ถ้าเหล็กถูกดึงถึงจุดนี้แล้วจะไม่คืนสภาพ) จะไม่ต่ำกว่า 490 Mpa (เมกะพาสคาล) หรือ 4,900 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร
สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อจากนี้ ก็คือ การเก็บตัวอย่างเหล็กจากทั้ง 3 บริษัท ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร ได้แก่ SKY (บริษัทซินเคอหยวน ซึ่งเป็นผู้ผลิตจากจีน) TATA (บริษัท ทาทา สตีล ผู้ผลิตจากอินเดีย) และ TYS (เครือบริษัทไทยคูณ ผู้ผลิตจากจีนร่วมทุนกับไทย) มาตรวจสอบเพิ่ม เพื่อให้ผลการทดสอบสามารถยืนยันได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจสอบจุลภาคโลหะ (Metallurgical Microscope) เพื่อลงลึกในรายละเอียดทางวิศวกรรมโลหะการ เพื่อให้การสรุปผลมีความถูกต้องแม่นยำตามหลักวิศวกรรม
ประเด็นที่ควรต้องลงลึกให้มากกว่าคุณภาพของเหล็ก ก็คือ กระบวนการผลิตเหล็ก เนื่องจากบริษัทจีนที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตเหล็กในไทย ส่วนใหญ่จะใช้เตาที่เรียกว่า “เตาอินดักชั่น” (Induction Furnace) โดยเหล็กที่ผลิตด้วยวิธีนี้ จะมีสัญลักษณ์ IF ระบุไว้ที่ท้ายของตัวบาร์มาร์ก (รหัส) ที่ปรากฏบนเหล็ก ซึ่งประเทศจีนได้ห้ามไม่ให้มีการผลิตเหล็กโดยใช้เตาอินดักชั่น ตั้งแต่ปี 2017 แล้ว เนื่องจากการผลิตเหล็กด้วยเตาอินดักชั่น นั้นไม่สามารถควบคุมคุณภาพของเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหล็กที่ผลิตด้วยเตาอินดักชั่น หากต้องการเหล็กที่มีคุณภาพสูง จำต้องมีกระบวนการในการควบคุมวัตถุดิบอย่างเข้มงวดมาก ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วเป็นไปได้ยากมากๆ
ที่ผ่านมามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กข้ออ้อย ของประเทศไทย ตั้งแต่ มอก.24-2536 มอก.24-2543 มอก.24-2548 ไม่เคยระบุถึงการผลิตด้วยวิธีเตาอินดักชั่น (Induction Furnace) มาก่อนเลย ซึ่งในแวดวงอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กจะทราบกันดีว่า การผลิตเหล็กที่ผู้ประกอบการไทยใช้จะมีอยู่ 3 วิธี คือ การใช้เตาอิเล็กทริก (Electric Arc Furnace) เตาโอเพนฮาร์ธ (Open Hearth Furnace) ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว และเตาเบสิกออกซิเจน (Basic Oxygen Furnace)
คำถามที่สำคัญ อยู่ที่มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กข้ออ้อย มอก.24-2559 ที่อยู่ดีๆ ก็ระบุถึงกรรมวิธีการผลิตเหล็กแบบอินดักชั่นเฟอร์เนซ เหมือนอยู่ดีๆ ก็กำหนดขึ้นมาเพื่อให้บริษัทจีน ย้ายโรงงานผลิตเหล็กที่ประเทศเขาโละทิ้งแล้ว ให้มาตั้งที่ประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการวิชาการคณะที่ 9 ที่กำกับดูแลมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องชี้แจงต่อสังคม ว่าเหตุใดถึงกำหนดกรรมวิธีการผลิตเหล็กด้วยเตาอินดักชั่น เอาไว้ในมาตรฐาน มอก.24-2559
นอกจากนี้ ปัจจุบันหากพิจารณาร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กข้ออ้อย มอก.24-25xx ที่กำลังจะปรับปรุงใหม่ ยังมีการขยายขอบเขตค่าควบคุม “โบรอน” จากเดิม ค่าสูงสุดต้องไม่เกินร้อยละ 0.0008 เป็นร้อยละ 0.003 พร้อมกับถอดวลีที่ระบุว่า “เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ต้องเป็นเหล็กกล้าคาร์บอน” ออกจากมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งการทำเช่นนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตจากแวดวงวิศวกรรมว่า อาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิตเหล็กที่ใช้เตาอินดักชั่น ที่มีข้อจำกัดในการควบคุมคุณภาพ และยังเป็นการเปิดช่องให้กับเหล็กเส้นที่นำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมาก
สำหรับข้อสังเกตเกี่ยวกับ สัญลักษณ์ตัว T จากการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโลหะการ พบว่าเป็นการบ่งชี้ถึงกรรมวิธีการผลิตเท่านั้น โดยเหล็กข้ออ้อยที่ผ่านกรรมวิธีทางความร้อน โดยการทำให้เย็นโดยการฉีดสเปรย์น้ำ ก็จะมีสัญลักษณ์ T กำกับ โดยทางทฤษฎีแล้ว พบว่าคุณสมบัติทางกล ทั้งการรับแรงดึง ความยืด การดัดโค้ง การต่อเหล็กข้ออ้อย ได้แก่การทาบ การต่อเชื่อม และความทนทางต่อไฟไม่ต่างกันมากนัก หากใช้งานถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ดังนั้นคำถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์ T จึงเป็นเพียงคำถามประกอบเท่านั้น
แต่คำถามสำคัญต่อกรณีนี้ ก็คือ มอก.24-2559 ไปรับรองการผลิตเหล็กด้วยเตาอินดักชั่น เพื่อให้โรงงานเหล็กที่ประเทศจีนโละทิ้ง ย้ายมาตั้งที่ประเทศไทย ทำไม มีใครได้ประโยชน์จากการรับรองการผลิตเหล็กด้วยเตาอินดักชั่น หรือไม่
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS