ชูวิทย์ ชี้จุด! รปภ. เป็นนอมินีของคนซื้อ เคยทำงานอยู่ในบริษัทสามีของพี่สาว “เศรษฐา”
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาเปิดพฤติกรรม บ.แสนสิริใช้นอมินี ซื้อขายที่ดินย่านทองหล่อโยงพฤติกรรมที่ต้องสงสัยที่เชื่อมโยงกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โดยล่าสุดนายชูวิทย์เปิดข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กว่า แม่บ้านและรปภ. ที่เป็นนอมินีนั้น เกี่ยวข้องกับใคร
“แม่บ้าน รปภ. เป็นนอมินีใคร?”
คนขายจะตั้งนอมินีทำไม?
ในเมื่อมีชื่อดั้งเดิม และซื้อที่ดินมาตั้งแต่ปี 2551
แต่ดันมาเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้น ตอน “แม่บ้าน” กับ “รปภ.” ได้เงินกู้ 1,000 ล้าน จากบริษัทลูกของแสนสิริ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558
ในวันเดียวกันนี้ ทำ 3 นิติกรรม พร้อมกัน คือ
1.ทำสัญญาจดจำนอง 1,000 ล้าน ได้เงิน 1,000 ล้าน จากบริษัทลูกของแสนสิริ
2.เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น บ.เอ็น แอนด์ เอ็น (ซื้อหุ้นจากเจ้าของเดิม เปลี่ยนเป็นนอมินี)
3.ปลอดจำนองที่ดินจากธนาคาร LH Bank ที่เจ้าของเดิมจำนองไว้กับธนาคาร
ทุกอย่างล้วนกระทำการในวันเดียวพร้อมกัน
ผู้ขายจะตั้ง “นอมินี” เป็น แม่บ้าน กับ รปภ. รับเงินกู้จากแสนสิริ แล้วจ่ายเงินซื้อที่ดินตัวเองทำไม?
แสนสิริบอกว่าทำสัญญาจำนองที่ดิน จำนวน 1,000 ล้าน กับ บ.เอ็น แอนด์ เอ็น
และยังทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินครอบเป็นเงื่อนไขไว้ด้วย
แทนที่จะซื้อตรงกับ บ.เอ็น แอนด์ เอ็น เสียทีเดียว
การที่ต้อง “ทำสัญญาจำนอง 1,000 ล้าน” เพราะต้องการนำเงินสดออกจากบริษัท
เป็นกระบวนการ “ยักย้ายถ่ายเทเงิน” เพื่อตัดทอนเงินบวม
ต่อมาในปี 2559 แสนสิริก็ซื้อที่ดินแปลงเดิมนี้ในราคาใกล้เคียงกัน และนำเงินไปชำระหนี้ให้บริษัทที่ให้กู้ ก็คือบริษัทลูกของแสนสิรินั่นเอง
จากนั้น แสนสิริก็นำที่ดินไปจดจำนองกับธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เงินกู้ 1,629 ล้าน และไปเสนอขายหุ้นส่วนให้กับ บ.บีทีเอส
อันเป็นการกิน 2 ต่อ กล่าวคือ ได้กำไรจากการบวมค่าที่ และบอกราคาบีทีเอสในจำนวนสูงกว่าที่แท้จริง
ที่จริงแล้ว “ขงเบ้ง” คนข้างกายว่าที่นายกฯ คือคนตั้งนอมินีเพื่อตัดเงินทอนจาก 1,000 ล้าน จ่าย 565 ล้าน เหลือ 435 ล้าน
แค่ถามคนขายย่อมต้องรู้ว่า วันเจรจาขายหุ้น ขายที่ ได้คุยกับใคร?
ผมยื่นหนังสือร้องให้ “บิ๊กโจ๊ก” เรียกนอมินี คนขาย คนซื้อ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สอบต่อไป
รวมทั้งยื่นต่อ ก.ล.ต. ในฐานะผู้เสียหาย เพราะถือหุ้นแสนสิริไว้จำนวน 20,000 หุ้น
เงินตรงนี้หายไปไหน ไปเข้ากระเป๋าใครมิทราบ?
นอมินีจะเป็นคนของใคร หากไม่ใช่แสนสิริ?
รปภ. นอมินีของใคร?
เมื่อผมขุด แม่บ้าน และ รปภ. ขึ้นมาให้เห็นว่าเป็น “นอมินี” บ.เอ็น แอนด์ เอ็น
ที่เปลี่ยนหุ้นจากเจ้าของที่ตัวจริงดั้งเดิม (หมอนเรนทร์) ไปเป็น แม่บ้าน น.ส.พินิช และ รปภ. อีก 2 คน คือ นายสมศักดิ์ และ นายพีระพงษ์
คนสำคัญ คือ “สมศักดิ์” เพราะเป็นผู้เซ็นชื่อทำนิติกรรมต่างๆ ทั้งจำนอง และขายให้แสนสิริ
มีลายเซ็นชัดเจน ทั้งที่มีหุ้นอยู่แค่ 1 หุ้น จาก 1 ล้านหุ้น
แสนสิริโยนขี้ว่าเป็น “นอมินีของคนขาย”
ความจริงปรากฏ ดังนี้
รปภ.สมศักดิ์ ที่เป็นนอมินี ทำงานอยู่สังกัดบริษัทรักษาความปลอดภัย ชื่อ บ. แม็กซ์ เพาเวอร์ การ์ด จำกัด
มี นางวิไล คทวณิช ถือหุ้นอยู่ 33%
เป็นพี่สาวของ “นายทศพงษ์ จารุทวี” หรือ “นายขงเบ้ง” ที่เคยเป็นเจ้าของบริษัท N Park ซึ่งล้มบนฟูกนุ่มๆ ไปในช่วงต้มยำกุ้ง
ส่วนนายขงเบ้งเกี่ยวข้องอย่างไรกับนายเศรษฐา ก็ต้องบอกว่าเป็น “คนข้างกาย” และเป็น “คู่เขย”
โดยพี่สาวภรรยานายเศรษฐา เป็นภรรยาของนายขงเบ้ง
และหากปฏิเสธ ก็ต้องไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 7 ของแสนสิริ คือ น.ส.ระวิวรรณ จารุทวี เป็นลูกสาวคนเดียวของ นาย ทศพงษ์ จารุทวี นั่นเอง
รปภ. ที่ทำงานบริษัทนี้ มีความเชื่อมโยงไปถึง แสนสิริอย่างนี้ จะมาบอกว่าเป็น “นอมินี” ของคนขายได้อย่างไร?
แท้จริงเป็นนอมินีของคนซื้อ คือ แสนสิริ ที่เกี่ยวพันกันตามรูปข้างบน
ยังนั่งจิบชาเช็คอินที่ออฟฟิศแสนสิริสบายใจเฉิบ
แถมยังถือหุ้น อีก 4 บริษัท ที่เกี่ยวโยงกับแสนสิริ เช่น
บริษัท อ่อนนุช แลนด์ จำกัด ที่ รปภ.สมศักดิ์ (นอมินี) ถือหุ้น เป็นคู่สัญญาฝั่งแสนสิริกับบริษัทขนส่ง ทำสัญญาขนส่งผู้อยู่อาศัยในโครงการ “T77” ในซอยอ่อนนุช 77 อันเป็นโครงการใหญ่ของแสนสิริ
และใช้โครงสร้างผู้ถือหุ้นแบบเดิม คือ ถือหุ้นแค่ 1 หุ้น แต่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
ตามที่ผมไล่รายละเอียดมา นอมินี รปภ.สมศักดิ์ ย่อมบอกได้ชัดเจนว่าเป็นนอมินีของแสนสิริ
รายละเอียดต่างๆ ได้ส่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตามเอกสารที่ไปยื่นไว้แล้ว
นอมินี คนซื้อ คนขาย เจ้าหน้าที่ที่ดิน เตรียมเรียงตัวรอไปสอบปากคำให้ความจริงปรากฏได้เลย
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS