พงศ์พรหม เปิดเหตุผล ทำไมกรุงเทพฯ น้ำยังท่วม และหนักขึ้นทุกปี ทั้งที่เอางบไปทำอุโมงยักษ์ใต้ดินแล้ว
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า
ตลอด 4 วันที่ผ่านมา กรุงเทพมีแต่ข่าวน้ำท่วมหนัก รถติดหนัก
จุดที่รถติดที่สุด ติดยาว 31 กิโลเมตร!!! เพราะน้ำท่วม
สงสัยมั้ยครับ
ทำไมกรุงเทพเจอวิกฤติน้ำท่วม รถติดหนักเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งที่ก็ถมงบทำอุโมงค์ยักษ์ใต้ดินกันมหาศาลหลายหมื่นล้านบาทแล้ว
เพราะกรุงเทพพยายามเอาเงินแก้ปัญหา แทนเอาปัญญาไปแก้ปัญหายังไงหละครับ
ผมเองก็บ้าพอที่จะโพสต์แบบนี้ทุกปี
มาดูแก้มลิง และพื้นที่ซับน้ำโรงงานยาสูบ + wet land ของสวนป่าเบญจกิติกัน
ราวๆ 40 กว่าปีก่อน แถวนี้น้ำท่วมเหมือนที่อื่นแหละ
จนมีดำริจากพระราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ให้ทำสวนสาธารณะเฟสแรก และขุดดินมาทำแก้มลิงเพื่อไปเชื่อมคลองไผ่สิงห์โต และสวนลุม ยาวไปคลองสาทร
จากนั้น น้ำไม่เคยท่วมคลองเตย-อโศก อีกเลย
จนมาทำสวนป่าเบญจกิติเพิ่ม ที่มีแนวคิด Wetland ซึ่งเป็นโครงการส่วนต่อขยายจากเฟส 1 เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน
ยิ่งเพิ่มพื้นที่รับน้ำในแถบนี้ให้มากขึ้นอีก
จะเจอฝนหนักเท่าไหร่ พายุกี่ลูก บริเวณนี้เอาอยู่หมด
คนเขตอื่นลำบากเพราะน้ำท่วม แต่คนเขตนี้ยังเดินช็อปปิ้งสบาย
กลับมาที่ กทม.
10 กว่าปีที่ผ่านมามัวแต่ไปมุ่งเน้นการทำ “อุโมงค์ใต้ดิน” ระบายน้ำ
10 กว่าปีผ่านไป ผลงานเลวกว่าเดิม
ตอนนี้ก็ยังทำแบบเดิมซ้ำๆ ด้วยงบประมาณมหาศาล
แทนที่จะทำ “คู่กันไป” กับแก้มลิงบนดิน
อุโมงค์ยักษ์มีจุดดี คือสร้างเครือข่ายการส่งน้ำได้ดี
แต่มีจุดอ่อนที่ใหญ่มาก คือมีพื้นที่รับน้ำที่แคบ น้ำจึงต้อง “ต่อคิว” ลงท่อ ต่างจากแก้มลิงที่มีพื้นที่รับน้ำใหญ่ รับน้ำได้ทีละมากๆ
จุดอ่อนอีกข้อของอุโมงค์ยักษ์ คือตายด้วยการใช้ไฟฟ้าสูง รวมถึงขยะที่จะต้องการการดูแลสม่ำเสมอ
แทนที่จะมุ่งแต่เผางบประมาณมหาศาลกับอุโมงค์ยักษ์ที่พิสูจน์แล้วว่า “ไม่สำเร็จเท่าที่ใช้งบประมาณ”
ผมขอเรียกร้องทีมผู้ว่า “ลดอีโก้” ความเป็นวิศวกรของท่านที่อินกับการก่อสร้าง การโยธา
มาเรียนรู้การทำงานของ “แก้มลิง” ที่ในหลวง ร.9 ท่านศึกษามาหลายสิบปี ก็จะช่วย กทม.ได้ดีกว่าที่ทำกันอยู่
ตอนนี้เหมือน กทม.เผาเงินลงใน “ไพ่ใบเดียว” คือทำแต่โยธา
ทำไมไม่ทำทั้ง 2 อย่างคู่กันไป
แถมแก้มลิง ใช้งบประมาณน้อยกว่าอุโมงค์ยักษ์ตั้งมากมาย
ช่วยบ้านเมืองลดการใช้ภาษี ไม่ดีกว่าเหรอครับ?
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
