Connect with us

News

รังสิมันต์ โรม ยืนยัน! 34 จุดต้องสงสัยในเมียวดี ขายไฟให้แก๊งคอลฯ ตำรวจ ทหารมี มีเอี่ยว!

Published

on

รังสิมันต์ โรม หนักใจ ปัญหาแก๊งคอลฯ ตั้งคำถาม ทำไมแก๊งคอลฯ ถึงเลือกมาอยู่ใกล้ชายแดนไทย

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ โดยระบุว่า

[ อภิปรายปิดญัตติด่วนเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ]

ผมได้อภิปรายสรุปภายหลังมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง พิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขกระบวนการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบัญชีม้า

ผมพูดเรื่องนี้ด้วยความหนักใจ เพราะเคยอภิปรายอยู่หลายวาระ และสส.ทุกคนเห็นปัญหา หากปิดชื่อพรรคชื่อฝ่าย ก็เห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ที่ผมอภิปรายไปตั้งแต่ปี 2566 เราจะเห็นความคืบหน้าของเรื่องนี้น้อยมาก

หากเราพูดถึงความเสียหาย เราจะพบว่ามีมูลค่าความเสียหายในประเทศไทยกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่หากรวมถึงประชาชนที่ไม่เข้ามาแจ้งความหรือไม่กล้าให้ข้อมูล ความเสียหายทั้งหมดน่าจะทะลุ 1 แสนล้านบาทไปแล้ว และมีคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมสแกมเมอร์มากกว่า 3 แสนคน และในอนาคตตัวเลขความเสียหายน่าจะมากกว่างบประมาณแผ่นดินของไทยตลอดทั้งปี และเราจะพบว่าคนจากหลากหลายชาติถูกหลอก ถูกนำพาผ่านประเทศไทย และถูกส่งตัวไปที่อื่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักจะหลอกว่า ทำงานที่ประเทศไทยได้รายได้ดีแต่กลับถูกส่งตัวไปยังเมืองเมียวดี และพื้นที่ใกล้เคียง สถานะของประเทศไทยจึงกลายเป็นเอเย่นต์อย่างไม่เต็มใจของแก๊งค้ามนุษย์

ผมมี 2 คำถามที่อยากจะให้ทุกท่านทำความเข้าใจคือ

1.ทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถึงเลือกมาตั้งอยู่ใกล้ชายแดนของไทย

2.การมาตั้งอยู่ใกล้ชายแดนของไทย พวกเขาได้ประโยชน์อะไร ทำไมถึงไม่ไปทำในอื่น
หากเราตั้งคำถามก็จะเห็นความผิดปกติว่าประเทศไทยเกี่ยวข้องกับแก๊งหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม อาณาจักรของคอลเซ็นเตอร์อยู่รอบประเทศไทย และมีความพยายามที่จะเข้ามาตั้งในประเทศไทย เป็นเรื่องที่น่าหนักใจและกังวลใจเพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจน

[จุดขายไฟให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์]
ผมให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ จะพบว่าในเมืองเมียวดีมี 34 จุดต้องสงสัย ซึ่งเกินกว่า 10 จุดเป็นของคนไทย หลายจุดเป็นของตำรวจและอดีตทหาร ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ การหลอกลวงเอาเงินของพวกเราไป ดังนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงเกี่ยวพันกับประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจุดขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เติบโต บางจุดไฟถูกตัดไปแล้ว โดยจุดขายไฟฟ้าที่จังหวัดตากเป็นนอมินี เป็นบริษัทของชนกลุ่มน้อยที่มาซื้อขายไฟ เชื่อว่าชาวบ้านคงได้ประโยชน์อยู่บ้าง แต่สายไฟฟ้าที่ลากจากไทยไปยัง KK Park ถึงแม้จะตัดไปแล้ว แต่ผมเป็นคนถามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่า ไฟฟ้าถูกตัดแล้วจะสามารถรื้อถอนเสาไฟได้หรือไม่

แต่กลับได้รับคำตอบว่า “เผื่อในอนาคตขายใหม่” นี่คือวิธีคิดของหน่วยงานในประเทศ กระทรวงมหาดไทยต้องเอาจริงเรื่องนี้ จะปล่อยให้คาราคาซังไปทำไม การขายไฟฟ้าหากนำไปสู่การตัดไฟ เราไม่ได้รับผลกระทบเพราะไฟฟ้าเหล่านี้คิดเป็นรายได้ไม่เยอะของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตกลงแล้วประเทศไทยคือแบตเตอรี่ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช่หรือไม่ความตลกร้ายที่สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบราชการของไทยคือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ได้นิ่งนอนใจขนาดนั้น แต่หากใช้ความพยายามสักหน่อยก็จะประสบความสำเร็จ ในหนังสือติดตามมติ ครม.เมื่อเดือน พ.ค.67 ระบุชัดเจนว่าให้ระงับสาธารณูปโภคข้ามพรมแดน ที่ใช้เป็นประโยชน์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่จนถึงตอนนี้ไฟฟ้ายังขายอยู่ น้ำมันที่ถูกส่งไปปั่นไฟให้กับชเวโก๊กโก ก็ถูกส่งมาจากประเทศไทย ตกลงแล้วประเทศไทยจะเป็นลมใต้ปีกให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะดำรงได้ใช่หรือไม่

[ ท่าข้ามขนปูนไปสร้างตึกให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ]
ผมได้เปิดภาพท่าข้ามที่ 29 ซึ่งฝั่งตรงข้ามไม่ได้มีชุมชนมากมาย แต่ตรงนั้นส่วนใหญ่เป็นแก๊งค์สแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ มีการช็อตไฟฟ้า ทุบตี มีกระบวนการที่กำลังหลอกเงินคนไทยและคนทั่วโลก ซึ่งท่าดังกล่าวถูกอนุมัติโดยกระทรวงมหาดไทย ความน่าตกใจคือท่านี้มีที่ทำการหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ที่ทำการท่า 29 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรท่า 29 ด้วย นอกจากนี้ขณะที่ลงพื้นที่ไปยังชายแดน พบการขนปูนจากประเทศไทยไปยังท่าข้าม และกำลังส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกำลังก่อสร้างแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และในบริเวณท่ายังเห็นทหารดูแล ผมเชื่อว่าท่าเหล่านี้น่าจะมีคนถูกหลอกข้ามไปฝั่งเพื่อนบ้านด้วย สุดท้ายแล้วแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ปลูกสร้างโดยคนไทย มีคนบางกลุ่มได้ประโยชน์บนความทุกข์ทรมานของผู้อื่น

[ การปราบปรามและเร่งช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์อีก 6 พันคน ]
จนถึงตอนนี้หน่วยงานของรัฐไม่จำเป็นต้องรอให้กรรมาธิการหรือสภาฯ ต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำอีก ถึงเวลาที่เรื่องนี้จะเป็นวาระแห่งชาติ ทุ่มสรรพกำลังปราบปรามและจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาตรการเรื่องบัญชีม้าและซิมม้าไม่เพียงพอ เพราะศัตรูของชาติอยู่ใกล้เราเราต้องปราบปรามอย่างถึงรากถึงโคน จัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่น สำคัญคือการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์อีก 6 พันคน

ผมในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ยินดีหากสภาจะส่งเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการ แต่คิดว่าเรื่องนี้กรรมาธิการได้ทำเต็มที่แล้ว แต่ยังต้องการแรงขับเคลื่อนจากพรรคการเมืองโดยเฉพาะฝั่งรัฐบาล ผมจึงอยากให้ใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ภัยคุกคามนี้หมดไป ทำให้ประเทศไทยกลับมามีชื่อเสียงที่ดีอีกครั้ง ทำให้คนที่กำลังเดินทางมาประเทศไทยไม่ต้องกังวลว่า จะถูกหลอกหรือเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์หรือไม่ Land of smile จะเป็น Land of smile อย่างแท้จริง

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: