ขสมก.พบพนักงานขับรถโดยสารและพนักงานเก็บค่าโดยสารติดโควิด จำนวน 17 คน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ได้ออกประกาศคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ( COVID-19 ) แจ้งว่า ในวันที่ 15 เมายน 2565 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้รับแจ้งว่า มีพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ( COVID 19 ) จำนวน 17 คน ดังนี้
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 39 เพศหญิง อายุ 23 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 39 เพศชาย อายุ 34 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 129 เพศหญิง อายุ 57 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 95 เพศชาย อายุ 44 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 2 เพศชาย อายุ 57 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 206 เพศหญิง อายุ 26 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 536 เพศชาย อายุ 59 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 515 เพศชาย อายุ 53 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 73 เพศชาย อายุ 50 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 191 เพศชาย อายุ 45 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 517 เพศหญิง อายุ 26 ปี
-พนักงานเห็บค่าโดยสาร สาย 204 เพศหญิงอายุ 41 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 178 เพศชาย อายุ 27 ปี
-พนักงานขับรถโดยสาร สาย 137 เพศชาย อายุ 24 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 117 เพศหญิง อายุ 31 ปี
-พนักงานควบคุมระบบสารสนเทศการเดินรถ (GPS) ระดับ 2 เพศชาย อายุ 51 ปี
-พนักงานเก็บค่าโดยสาร สาย 117 เพศหญิง อายุ 32 ปี
โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการรักษาตัว เมื่อพนักงานขับรถโดยสารนำรถกลับเข้าอู่ในแต่ละรอบ จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70 % จึงมั่นใจได้ว่ารถโดยสารขององค์การมีความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)
นอกจากนี้องค์การ ได้พักการใช้งานรถโดยสาร คันที่พนักงานผู้ติดเชื้อฯปฏิบัติหน้าที่ เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำการฉีดพ่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ อู่จอดรถ และท่าปล่อยรถโดยสารรวมทั้ง ให้พนักงานที่มีความใกล้ชิด กับพนักงานผู้ติดเชื้อฯหยุดงานไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง