กรมราชทัณฑ์ เผย การใช้ น.ช./น.ญ. นำหน้านักโทษเด็ดขาดต้องถูกคุมตัวในเรือนจำ อย่างกรณีทักษิณ จะใช้คำว่านาย ไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่เป็นหลักสิทธิมนุษยชน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันนี้(16 ม.ค.67) กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจง รื่อง “ราชทัณฑ์ แจงการใช้คำนำหน้าผู้ต้องขัง” หลังมีกระแสวิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับสิทธิพิเศษเหนือผู้ต้องขังรายอื่น โดยระบุว่า
ตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 “นักโทษเด็ดขาด” หมายความว่า บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุดและให้หมายความรวมถึงบุคคล ซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยการใช้คำนำหน้าชื่อว่า นักโทษเด็ดขาดชาย (น.ช.) หรือนักโทษเด็ดขาดหญิง (น.ญ.) จึงเป็นเพียงถ้อยคำที่ใช้ในการแบ่งประเภทของนักโทษเด็ดขาด โดยใช้เพศเป็นเกณฑ์กำหนดเท่านั้น ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย
และการใช้คำนำหน้าชื่อเหล่านี้จะใช้ในงานราชทัณฑ์ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานเท่านั้น หากต้องมีการเปิดเผยชื่อ-นามสกุล ออกสู่สาธารณชน จะไม่ใช้คำนำหน้าชื่อด้วย น.ช. หรือ น.ญ. เพื่อบ่งบอกสถานะความเป็นผู้ต้องขัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรในการคืนคนดีสู่สังคม รวมถึงอาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขัง เนื่องจากในปัจจุบันโลกโซเชียลและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็วและยังคงอยู่ในระบบอย่างยาวนาน จึงอาจทำให้เป็นการตีตรา ผู้ต้องขังเหล่านี้ไปตลอด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ยังหวังว่าจะสามารถดำเนินการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังทุกราย ให้ได้รับการยอมรับจากสังคม และดำเนินชีวิตภายหลังพ้นโทษได้อย่างปกติสุขไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
อีกทั้ง กรมราชทัณฑ์ มิได้เลือกปฏิบัติใช้คำนำหน้าชื่อว่า นาย เฉพาะกับนายทักษิณเท่านั้น โดยที่ผ่านมาหากต้องมีการเปิดเผยชื่อ – นามสกุลของผู้ต้องขังรายอื่นๆ ออกสู่สาธารณชน จะใช้คำนำหน้าชื่อว่า นาย นาง หรือ นางสาว เช่นเดียวกันกับการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์เมื่อออกไปรักษาโรงพยาบาลภายนอก รวมถึงระบบการบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนก็จะใช้คำนำหน้าชื่อเป็นนาย นาง หรือ นางสาว เช่นเดียวกัน โดยกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับคำนำหน้าชื่อเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อมิให้เกิดการตีตราหรือบ่งบอกสถานะความเป็นผู้ต้องขังไปตลอดชีวิต
เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS