ตำรวจทางหลวง สกัดจับคนร้ายอุ้มลักพาตัวแฟน จนจับคนร้าย พร้อมช่วยผู้เสียหายได้ จับตรวจฉี่คนร้ายพบเสพยา
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายภาสกรฯ กระทำความผิดฐาน
1.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
2.ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย“ โดยจับกุมได้ที่ ริมถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช หน้าเทศบาลตำบลท่าทองใหม่ ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.สุราษฎรธานี เหตุลักพาตัว โดยคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานรถวิทยุ 2516 ให้ช่วยสกัดจับ โดยรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ได้กลับรถมุ่งหน้า อ.กาญจนดิษฐ์ จากนั้นรถวิทยุ 2516 ได้ขับรถไล่ติดตาม จนไปถึงปั๊ม ปตท.ทุ่งรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ไมค์โครโฟนให้คนร้ายลงจากรถ
แต่คนร้ายไม่ยอมลงจากรถและได้ขับหลบหนีไปยัง ทล.44 (ย้อนศร) และคนร้ายได้เลี้ยวหลบหนีไปทางถนนทุ่งรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถติดตามไปอย่างกระชันชิด บริเวณสี่แยกท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์
จนสามารถสกัดรถยนต์คันดังกล่าวและควบคุมคนร้ายไว้ได้ เมื่อเข้าตรวจสอบพบ นายภาสกรฯ เป็นผู้ขี่ (ผู้ถูกจับ) และมี น.ส.สุธีมาสน์ญฯ (ผู้เสียหาย) จากนั้นได้นำตัว นายภาสกรฯ มายังศูนย์ปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีกับเพื่อจัดทำบันทึกจับกุม
ต่อมาในระหว่างพูดคุยกับ นายภาสกรฯ ได้แสดงลักษณะอาการคล้ายกับผู้เสพยาเสพติดขอทำการตรวจสอบปัสสาวะ พบว่ามีสารเสพติดปนเปื้อนในปัสสาวะชนิดเมทแอมเฟตามีนปนเปื้อนในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายภาสกรฯ ทราบ จากนั้นได้จัดทำบันทึกการจับกุมพร้อมนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางและผลการตรวจปัสสาวะส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยผู้ต้องหาให้การว่ามีปัญหาระหองระแหง กับ น.ส.สุธีมาสน์ฯ มาสักระยะ จึงตัดสินใจอุ้มตัว น.ส.สุธีมาสน์ เพื่อจะไปพูดคุย อ.ถำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช แต่ทางญาติของ น.ส.สุธีมาสน์ ได้โทรไปแจ้งความก่อนถูกสกัดจับได้
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS