Connect with us

News

ดีเอสไอ สะกดรอยตาม!! ผู้ต้องหานำเข้ารถหรู รวม 34 คัน !!

Published

on

DSI บุกจับ ผู้ต้องหานำเข้ารถหรู รวม 34 คัน เลี่ยงภาษี ฉ้ออากร ทำรัฐเสียหายกว่า 98 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวได้รายงานผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษีได้จำนวน 2 ราย ดังนี้

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ชุดปฏิบัติการที่ 1 ได้จับกุมจับกุมนางสาวฉันทิศา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2028/2565 ลงวันที่ 21 กันยายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนา จะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณริมถนนรักสุขภาพ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 91/2565 ของสำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกับ บริษัทโกลเบิล ออโต้ อิมพอร์ท จำกัด กับพวกรวม 4 คน กระทำความผิดนำรถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูป จำนวน 6 คัน ทำให้รัฐได้รับความเสียหายภาษีอากรขาดไปเป็นเงินจำนวน 29,895,254.12 บาท

ต่อมา (13 พฤศจิกายน 2567) ชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้จับกุมนางสาวชนิดา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาในฐานะผู้แทนนิติบุคคลและในฐานะส่วนตัว ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3820/2567 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ จับกุมได้ที่ ภายในเขตพื้นที่บ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 34/2565 ของสำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ซึ่งผู้ต้องหาเป็นกรรมการ บริษัทฟิวเจอร์ คาร์ จำกัด ได้ร่วมกันนำรถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูป จำนวน 28 คัน จากสหราชอาณาจักรเข้ามาในประเทศไทย ทำให้รัฐได้รับความเสียหายภาษีอากรขาดไปเป็นจำนวนเงิน 68,405,860.91 บาท                        

ทั้งนี้ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว รวมทั้งแจ้งพนักงานอัยการรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ขณะจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: