Connect with us

News

ด่วน! ยุ่งแล้ว ม็อบจัดขบวนรถตุ๊กตุ๊ก แห่ไล่ประยุทธ์ ทั่วกรุงฯ !!

Published

on

ม็อบ ทำกิจกรรมไล่ประยุทธ์หยุดทุนผูกขาด แห่ไล่ประยุทธ์ ขบวนรถตุ๊กตุ๊ก

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันนี้ 15 พ.ย.65 เมื่อเวลา 14.00 น. เพจทะลุฟ้าของกลุ่มผู้ชุมนุม ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ เตรียมทำกิจกรรมในวันนี้ โดยระบุว่า พบกับ ขบวนรถตุ๊กๆ ไล่ประยุทธ์หยุดทุนผูกขาด วันนี้ เวลา 15:00 น. เป็นต้นไป แล้วพบกัน ทั่วกรุงเทพมหานคร

โดยล่าสุด 16.00 น. ขบวน ได้เคลื่อนไปตามถนน เส้นทางต่างๆ แล้ว

ขณะที่ ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเช้า เวลา 10.30 น. กลุ่ม “ประชาชนและเครือข่าย” ทำกิจกรรม “What’s happening in Thailand” ยื่นหนังสือเกี่ยวกับการประชุมเอเปคและประเด็นที่ต้องการสื่อสารถึงผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่มาร่วมชุมนุม ต่อสถานทูตต่าง ๆ โดยเริ่มจาก สถานเอกอัครราชทูตแคนาดา, สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย, สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
เรียน เอกอัครราชทูตประจำประเทศแห่งระบอบประชาธิปไตย

และที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กลุ่ม “ประชาชนและเครือข่าย” ได้อ่านแถลงการณ์ 2 ภาษา (ไทย-อังกฤษ) โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ในวันนี้เราเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในปัจจุบัน และจุดยืนของเราที่มีต่อการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ประจำปี พ.ศ. 2565 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ภายหลังการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในปี 2562 ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ปกติส่งผลให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง การกลับมาของรัฐบาลเผด็จการ นำไปสู่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วประเทศ ในปี 2563 ซึ่งมีข้อเรียกร้องที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่

  1. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและองคาพยพ ต้องลาออก
  2. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ
  3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย

การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไม่ใช่ข้อเรียกร้องเพื่อล้มล้างสถาบันกษัตริย์ แต่เป็นข้อเรียกร้องเพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและงบประมาณ เพื่อให้เป็นสถาบันกษัตริย์มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ปัจจุบัน สถาบันกษัตริย์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธุรกิจผูกขาดและยังมีบทบาทสำคัญในการผูกขาดธุรกิจจนส่งผลให้ประชาชนต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรงทั่วประเทศ ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในฐานะสถาบันหลักของชาติ นำไปสู่การเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่เกี่ยวข้องกับ “การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาตรา 112 กลายมาเป็นอาวุธสำคัญของรัฐในการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจการสาธารณะ (SLAPPs)

เนื่องจากการเคลื่อนไหวและการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผยกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้นักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้ความรุนแรงจากรัฐในรูปแบบต่างๆ ประการแรก รัฐใช้กำลังและความรุนแรงในการเข้าสลายการชุมนุมโดยสันติของประชาชน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 526 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเยาวชนที่มีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ประการที่สอง มีการดำเนินคดีมาตรา 112 กับนักกิจกรรมทางการเมืองและประชาชนเป็นจำนวนมาก อย่างน้อย 217 ราย ใน 236 คดี ซึ่งจำนวนนี้รวมไปถึงเยาวชนที่ออกมาใช้สิทธิทางการเมืองด้วย นอกเหนือจากนี้ ยังมีการดำเนินคดีอื่น ๆ กับประชาชน เช่น มาตรา 116 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประการที่สาม ผู้ต้องหาในคดีทางการเมืองเผชิญกับความผิดปกติและไม่ได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมภายใต้ ICCPR รัฐบาลเผด็จการใช้ตุลาการเป็นเครื่องมือสำคัญในการพิพากษาประชาชน ที่ผ่านมา ในการพิพากษาคดีทางการเมืองมักมีความผิดปกติต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น มีการปฏิเสธการให้สิทธิการประกันตัวในคดีทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิที่ถูกระบุไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในภาคี มีการบังคับผู้ต้องหาในคดีทางการเมืองติดอุปกรณ์ติดตาม หรือ EM ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการประกันตัว ศาลมีการปฏิเสธไม่ให้จำเลยใช้หลักฐานของตนเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่มีการพาดพิงในการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ และมีการปฏิเสธไม่อนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์ในการสืบพยานคดีมาตรา 112

มากไปกว่านั้น นักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย นักการเมือง และ NGOs ไม่น้อยกว่า 30 ราย ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสิทธิมนุษยชน จากการใช้สปายแวร์ในเครื่องมือสื่อสาร และการแอบติดอุปกรณ์ GPS ในรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อสอดส่องข้อมูลส่วนตัว ดักจับสัญญาณ และติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนในทุกย่างก้าว

ดังนั้น เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในฐานะตัวแทนจากประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จะมีการพิจารณาถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากรัฐบาลไทยดังที่กล่าวมาในจดหมายฉบับนี้ เพราะเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมเอเปค ไม่ควรเป็นเวทีในการสร้างความชอบธรรมให้กับผู้นำที่ได้อำนาจมาจากกระบอกปืน ไม่ใช่อาณัติของประชาชน

ด้วยความเคารพและความหวังเป็นอย่างยิ่ง

ประชาชนและเครือข่าย

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: