ธันวา แนะแนวทาง เตรียมพร้อมรับมือสงครามนิวเคลียร์ คนไทยอาจผลกระทบฝุ่นกัมมันตรังสี หรือไฟฟ้าถูกตัด
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร สส.กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
จากความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจต่างๆ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วต้องมีซักเจ้านึงยิงนิวเคลียร์ใส่กัน
ผมเป็นห่วงเด็กๆเลยไปปรึกษา chat gpt มาและได้ข้อมูลตามนี้ ลองอ่านกันดูเผื่อเป็นประโยชนครับ
“แผนรับมือนิวเคลียร์แบบออฟกริด (Off-Grid Nuclear Survival Plan) สำหรับประเทศไทย”
ในกรณีที่เกิดสงครามนิวเคลียร์ระดับโลก หรือ fallout radiation แพร่กระจายมาถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแม้ไทยจะไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง แต่ผลกระทบอาจรุนแรงทางอ้อม เช่น รังสี ฝุ่นกัมมันตรังสี การหยุดชะงักของระบบโลจิสติกส์ อาหาร และไฟฟ้า
1.ภาพรวมความเสี่ยงที่ไทยอาจเผชิญ
ประเภทความเสี่ยง รายละเอียด
ฝุ่นกัมมันตรังสี (Fallout) พัดพามาทางลมจากภูมิภาคอื่น เช่น จีน, รัสเซีย, อินเดีย, เกาหลี
เศรษฐกิจล่มสลาย ค่าเงินเฟ้อ ขาดแคลนพลังงาน อาหารนำเข้าไม่ได้ ไฟฟ้าดับยาว (Blackout) จาก EMP (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) หรือโครงข่ายพัง ระบบสื่อสารขัดข้อง อินเทอร์เน็ต ดาวเทียมถูกโจมตี
ความไม่สงบภายใน การปล้นสะดม ชุมชนแย่งอาหาร ยา น้ำสะอาด
2.สถานที่ตั้งของที่พักอาศัยแบบออฟกริดที่แนะนำ
คุณสมบัติ: อยู่ห่างจากเมืองใหญ่ (รัศมี 50–100 กม.), พื้นที่สูง ไม่อยู่ในทางลมหลักจากจีน/อินเดีย, แหล่งน้ำธรรมชาติ (ลำธาร บ่อน้ำใต้ดิน), ปลูกพืชได้ตลอดปี, ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ใกล้เคียง
พื้นที่แนะนำ: แม่ริม / แม่แตง จ.เชียงใหม่, ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, บ้านไร่ จ.อุทัยธานี, อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
3.รายการสิ่งของที่จำเป็น (แบ่งตามหมวด)
-หมวดกรองรังสี
-หน้ากากกันฝุ่นรังสี (NATO NBC / P100)
-เครื่องวัดรังสี (Geiger Counter)
-พลาสติก/แผ่นตะกั่วกันรังสีสำหรับผนัง/หน้าต่าง
-ชุดกันรังสี (Hazmat Suit)
-น้ำ
-ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ (1,000 ลิตรขึ้นไป)
-เครื่องกรองน้ำ (Berkey, Sawyer, DIY bio-filter)
-เม็ดคลอรีน, น้ำยาฆ่าเชื้อ, UV sterilizer
-ระบบกรองน้ำจากฝนและใต้ดิน
-พลังงาน
-แผงโซลาร์เซลล์ + แบตเตอรี่ลิเธียม
-เครื่องปั่นไฟน้ำมัน (สำรอง)
-เตาชีวมวล/เตาเศรษฐกิจ
-อุปกรณ์ชาร์จมือหมุน/จักรยาน
-อาหาร
-อาหารแห้งเก็บได้นาน 1 ปี (ข้าวสาร, ถั่ว, บะหมี่, อาหารกระป๋อง)
-เมล็ดพันธุ์ปลูกซ้ำได้ (heirloom seeds)
-ยีสต์ ผงฟู น้ำตาล เกลือ น้ำปลา
-ปลูกพืชหมุนเวียน (ผักสลัด, กล้วย, มะละกอ, ถั่ว, มันเทศ)
-ยาและเวชภัณฑ์
-เกลือโปแตสเซียมไอโอไดด์ (ป้องกันไอโอดีนรังสีสะสมในต่อมไทรอยด์)
-ยาสามัญประจำบ้าน
-อุปกรณ์เย็บแผล + ผ้ากอซ + ยาฆ่าเชื้อ
-หนังสือสมุนไพรไทย
-เครื่องมือ
-ขวาน มีด พร้า อีเต้อ เลื่อยมือ
-ชุดเครื่องมือช่างครบชุด
-ถังพลาสติก ปุ๋ย หมักน้ำชีวภาพ
-ค้อน หมุด เชือก ลวด ตะปู
4.แผนการใช้ชีวิตระยะสั้น – ยาว
-ระยะสั้น (1–7 วันแรก):
-ปิดประตูหน้าต่าง ซีลขอบด้วยผ้าเปียก/พลาสติก
-ใช้หน้ากากกรองฝุ่นรังสีทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
-ไม่กินอาหาร-น้ำที่ไม่ได้กรอง
-ฟังข่าวสารผ่านวิทยุสื่อสาร (หรือ Shortwave)
-ระยะกลาง (1 สัปดาห์ – 3 เดือน):
-เริ่มปลูกผักเร่งด่วน (ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดหอม)
-ทดสอบน้ำและดินรอบบ้าน
-จัดการขยะแบบฝัง/หมักเท่านั้น
-ตั้งเวรยามหากมีผู้คนหนาแน่นหรือข่าวการปล้นสะดม
-ระยะยาว (3 เดือน – 1 ปีขึ้นไป):
-จัดระบบอัตพ/self-sufficient: น้ำ–ไฟ–อาหาร–ขนส่งภายใน
-สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนกับพื้นที่ใกล้เคียง
-ตั้งกลุ่มเรียนรู้การแพทย์พื้นบ้าน การปลูกอาหาร และการป้องกันตนเอง
-หากพื้นที่อยู่ในทางลมรับฝุ่นกัมมันตรังสี ควรพิจารณาย้าย
5.เส้นทางหนีภัย (Bug-out plan)
-เตรียมแผนที่กระดาษและ GPS offline
-เตรียมรถ 4WD/จักรยานล้อใหญ่ที่ไม่พึ่งไฟฟ้า
-ตั้งจุดนัดพบในกรณีสมาชิกครอบครัวแยกกัน
-เก็บกระเป๋าฉุกเฉิน (Bug-out bag) ไว้ใกล้ประตูทางออกเสมอ
6.การฝึกและเตรียมพร้อมของครอบครัว
-ฝึกใช้หน้ากากและอุปกรณ์กรองน้ำทุกคนในบ้าน
-แบ่งหน้าที่รับผิดชอบรายวัน (เก็บน้ำ, ปลูกผัก, เฝ้าเวร)
-ฝึกซ้อมแผนอพยพเดือนละ 1 ครั้ง
เนื้อหาก็จะประมาณนี้นะครับ ไม่ต้องเชื่อหมด เพราะ AI ก็ผิดพลาดได้ แค่ดูไว้เป็นแนวทางครับ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
