เร่งล่าตัวพ่อสาว คู่กรณีรองนายกฯ ย. ผู้ต้องหาคนสำคัญ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ความคืบหน้ากรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ออกมาโพสต์ประเด็นร้อนอดีตรองนายกรัฐมนตรี ชื่อย่อ ย. แอบคบชู้กับหญิงสาวเมียคนอื่น พร้อมกับรูปภาพลับหลุดว่อนโซเชียล กลายเป็นประเด็นดทางสังคม ต่อมาปรากฏหนังสือที่ พ.ต.ท.วันชัย พันธพัฒน์ สารวัตรสอบสวน สน.บางยี่ขัน ทำหนังสือถึง นาย ย. ในฐานะผู้เสียหายว่า ตามที่นาย ย. แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.ธ. ผู้ต้องหาที่ 1 (หญิงที่ปรากฏเป็นข่าว) นาย จ. ผู้ต้องหาที่ 2 (สามีผู้ต้องหาที่ 1) นาง ธ. ผู้ต้องหาที่ 3( แม่ผู้ต้องหาที่ 1) และนาย พ. ผู้ต้องหาที่ 4 (พ่อผู้ต้องหาที่ 1) ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
เนื่องจากอดีตรองนายกรัฐมนตรีเสียรู้ฝ่ายหญิง หลงรักเพราะถูกหลอกลวงว่าไม่มีสามี และตั้งใจจะสู่ขอโดยนำสินสอดกว่า 19 ล้านบาท ไปมอบให้ครอบครัวฝ่ายหญิง ก่อนถูกตีตัวออกห่าง ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ขณะที่ นายษิทรา ได้พาสามีผเข้าแจ้งความเอาผิดอดีตรองนายกรัฐมนตรี ฐานแจ้งความเท็จ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่ พ.ต.ท.วันชัย สรุปสำนวนสั่งฟ้อง น.ส. ธ. ผู้ต้องหาที่ 1 นาย จ. ผู้ต้องหาที่ 2 นาง ธ. ผู้ต้องหาที่ 3(แม่ผู้ต้องหาที่ 1) และนาย พ. ผู้ต้องหาที่ 4 (พ่อผู้ต้องหาที่1) ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และในส่วนผู้ต้องหาที่ 4 ยังหลบหนี พนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับ โดยศาลอนุมัติหมายจับตามหมายจับที่ จ.4/2566 ลงวันที่ 5 ม.ค. 2566 และส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา 1-3 ให้พนักงานอัยการอาญาตลิ่งชัน 2 ในวันที่ 10 ม.ค. 2566 จึงขอให้ผัดฟ้องมีกำหนด 6 วัน ตั้งแต่ 10 ถึง 15 ม.ค.นี้ (ผัดได้ 5 ครั้ง ครั้งละหกวัน) ซึ่งศาลรับคำขอผัดฟ้องไว้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวนาย พ. ผู้ต้องหาที่ 4 ตามหมายจับเพื่อดำเนินการตามกฎหมายภายในอายุความ อย่างเร่งด่วน โดย นาย พ. ผู้ต้องหาที่ 4 ถือว่ามีส่วนสำคัญกับคดีดังกล่าว เนื่องจาก จะทำให้สำนวนการสอบสวนมีความรัดกุมมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวถือเป็นความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงตามป.อาญามาตรา 341 ประกอบ 83 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS