ผู้ก่อตั้งเครือข่ายอากาศสะอาด ยื่นหนังสือที่สำนักนายกฯ พ.ร.บ.อากาศสะอาด แก้ปัญหามลพิษ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันนี้(13 พ.ย.) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม ผู้ก่อตั้งเครื่อข่ายอากาศ สะอาดแห่งประเทศไทย ได้เข้ายื่นร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดฯ ฉบับของเครื่อข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย Thailand Clean Air Network: CAN ต่อผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
โดยระบุถึงเหตุผลที่เครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทย ได้ใช้กระบวนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชนตาม พระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2564 เพื่อเสนอ “ร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลการจัดการอากาศ สะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …” ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทย ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับ การพิจารณาว่าเป็นร่างกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงินตามมาตรา 16 วรรคสี่แห่งพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย พ.ศ. 2564 ที่บัญญัติว่า “ในกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอตามมาตรา 11 เป็นร่างพระราชบัญญัติ เกี่ยวด้วยการเงินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไปยัง นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้คำรับรอง” ซึ่งทางสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ไปยังนายกรัฐมนตรีท่านเดิม (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นเวลานานปีกว่า
จนขณะนี้ได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของท่านนั้น ด้วยที่ผ่านมาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านสุขภาพจากมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นมาหลายปีอย่างกว้างขวาง ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เป็นปัญหาเรื้อรังที่กำลังทวีความรุนแรง ในหลายพื้นที่ ประชาชนต้องทนหายใจในอากาศที่ปนเปื้อนมลพิษในระดับที่สูงและต่อเนื่องยาวนานขึ้นเกินค่า แนะนำขององค์การอนามัยโลก ทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตเฉียบพลันจากโรคปอด โรคหัวใจ และโรคหลอด เลือดสมอง รวมถึงผลกระทบจากโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็งและเบาหวาน และยังส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อกลุ่ม เปราะบาง ได้แก่ เด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และผู้ทำงานกลางแจ้ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป เครีอข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย เป็นกลุ่มนักวิชาการจิตอาสาหลากสาขาและนักขับเคลื่อนสังคม มารวมตัวกันทำงานเรื่องการสร้างองค์ความรู้และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องทันกับสถานการณ์เกี่ยวกับ ปัญหามลพิษทางอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อหาทางออกร่วมกับทุกภาคส่วน มีภาคีจาก องค์กรต่างๆ
และได้รับการสนับสนุนบางส่วนจาก สสส. ที่ผ่านมา พบว่า การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีการ จัดการอย่างเป็นระบบครบวงจร วนเวียนอยู่กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ปลายเหตุตลอดเวลา กฎหมายเดิมที่มีอยู่ ก็ไม่สามารถรองรับการแก้ปัญหาดังกล่าวได้ กระทรวงเจ้าของเรื่องก็ยังแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าที่ไม่ได้เน้นความ ยั่งยืนในการแก้ปัญหา อีกทั้งไม่ได้แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำให้สาเหตุของปัญหายังคงอยู่ เครือข่ายฯ และ ประชาชนผู้เดือดร้อนจึงเห็นความจำเป็นต้องมีกฎหมายเชิงปฏิรูป ที่สอดคล้องกับการจัดการอากาศสะอาดตาม มาตรฐานองค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติ เพื่อให้มีระบบจัดการอากาศสะอาดที่ประกันสิทธิให้ประชาชนมี สุขภาพที่ดีและมีชีวิตยืนยาว
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS