วรนัยน์ เปิด 2 ทางออกชายแดนไทย-กัมพูชา เตือน ปัญหาต้องจัดการด้วยความหนักแน่น ไม่ใช่สติแตกเพราะกระแสคลั่งชาติ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายวรนัยน์ วาณิชกะ อดีตหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ ระบุว่า
ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชามีสองทางออก
1) รบกันเลย ทหารและประชาชนจะบาดเจ็บเสียชีวิตกี่คน บ้านเมืองจะสูญเสียเท่าไร มหาอำนาจจะแทรกแซงหรือไม่ สงครามจะยืดเยื้อนานเท่าไร ช่างแม่ง คนไทยจะไม่ทนอีกต่อไป กูต้องการความสะใจ
2) เจรจา ซึ่งย่อมต้องมีประเทศที่สาม (มาเลเซียในฐานะประธาณอาเซียน) และมหาอำนาจมาไกล่เกลี่ย ในขณะที่สหประชาชาติและนานาชาติกดดันทางใดทางหนึ่ง ในการเจรจานั้น ฉากหน้าต้องหล่อโลกสวยครับ ต้องโคตรหล่อให้โลกกรี๊ดละลายมอบความเป็นธรรมให้กับประเทศเรา ฉากหลังคือเกมการทูตอันลึกซึ้ง เต็มไปดัวยชั้นเชิงที่จะโน้มน้าวให้นานาประเทศเข้าข้างเรา
นี่คือสิ่งที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสีหศักดิ์ได้ปูไว้ให้บนเวทีสหประชาชาติ เรียกเสียงตรบมือจากนักการทูตทั้ง UN แต่คุณกัน จอมพลังบอกช่างแม่งกูอยากสะใจ ยามหลับนอนเปิดเสียงผีเสียงเครื่องบินดังลั่นใส่หมู่บ้านชาวเขมร ละเมิดสนธิสัญญา UN ที่ไทยลงนามไว้ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาและนายกอนุทินแทนที่จะห้ามแทนที่จะเตือนกลับให้ท้าย… สรุปกัมพูชาบอก “ขอบคุณครับพี่ไทยที่หยิบยื่นอาวุธให้“ ยื่นฟ้องUN
ลองคิดดู รมว.สีหศักดิ์จะต้องกุมขมับถอนหายใจมั้ย ? ลองคิดดู นี่คือตัวอย่างของการเอาคนเก่งมาใช้งาน แต่ความการเมืองเก่าและนายพลแก่จะทำให้งานพังหรือไม่ ?
ทั้งหมดนี้คืออะไร ? คุณกันโหนกระแสคลั่งขาติไม่ใช่เรื่องใหญ่นักเพราะเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง แต่ทั้งนายกและแม่ทัพเอาด้วย ทั้งประเทศก็ถูกฉุดลงหลุมสิครับ
คุณกันให้สัมภาษณ์ พูดถูกแต่คำตอบผิด :
ถูก หลายสิบปีที่ผ่านมา กัมพูชาไม่สนเจรเจา ไม่สน MOU แต่ไทยเราก็ละเลยเอง ปล่อยเขาเข้ามาเอง ไม่รุกเรื่องเจรจาเอง ซึ่งผู้ที่ละเลยคือทั้งรัฐบาลและกองทัพไม่ว่ายุคเผด็จการหรือประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นคำตอบคือการทูตเชิงรุกอย่างที่รมว.สีหศักดิ์กำลังทำ ไม่ใช่โหนกระแสคลั่งชาติมอบอาวุธทางการทูตให้กัมพูชา
ถูก ปล่อยเสียงผีแล้วกัมพูชา “พล่าน” เขาก็พล่านมาตั้งนานแล้วครับ เราก็พล่านกับเขาไปด้วย พล่านกันทั้งสองฝั่งแล้วได้อะไรนอกจาก engagement ความสะใจชั่วคราว และการทำให้งานของรมว.สีหศักดิ์ยากขึ้น ?
แต่สิ่งที่พูดผิดทั้งหมดคือ กล่าวหาสว.อังคณาว่า “เก่งแต่กับคนไทย ไม่เก่งกับเขมรบ้าง” ขอโทษนะครับ สว.อังคณาเขาต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษย์ชนของขาวไทยมาแทบทั้งชีวิต ต่อสู้ร่วมกับสามีจนกระทั่งสามี คุณสมชาย นีละไพจิตร ถูกลักพาตัวหายสาบสูญไป แต่ก็ยังสู้ต่อ ผู้ทีละเลยหลายสิบที่ผ่านมาไม่ใช่สว.อังคณาครับ
แต่คือรัฐบาลและกองทัพ ไม่ว่ายุคเผด็จการหรือประชาธิปไตย
ปัญหาต้องจัดการด้วยความหนักแน่น เด็ดขาด และมีสติครับ ไม่ใช่สะติแตกพลุกพล่านเพราะกระแสคลั่งชาติมันทำให้สะใจ
รักขาติเป็นสิ่งที่ดีครับ
ความคลุ้มคลั่งไม่เคยเป็นเรื่องดี
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
