วิโรจน์ ชี้ 6 มาตรการฮุนเซน สร้างผลกระทบต่อชาวกัมพูชา เสนอ แพทองธาร พุ่งเป้าที่กลุ่มผลประโยชน์ของตระกูลฮุน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
[ 6 มาตรการของฮุนเซน มีแต่มาตรการที่กระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชา ธุรกิจกาสิโนที่เป็นผลประโยขน์ของตน แทบไม่ได้รับผลกระทบเลย ]
ผมได้อ่านมาตรการตอบโต้ทั้ง 6 มาตรการ ที่ฮุนเซนประกาศออกมาในวันนี้ (13 มิ.ย.68) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในมาตรการที่ 5 และมาตรการที่ 6 ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมของกองทัพ และการเตรียมแผนอพยพประชาชน หากพิจารณาถึงสถานการณ์ ก็พอจะที่จะเข้าใจได้ แต่สำหรับอีก 4 มาตรการก่อนหน้า
ทั้งการจำกัดการค้าการขาย ทั้งการนำเข้า และการส่งออก และการจำกัดการออกไปประกอบอาชีพหารายได้ของแรงงานชาวกัมพูชา นั้นล้วนเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และปากท้องของประชาชนชาวกัมพูชาทั้งสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการที่ 3 ที่เป็นการจำกัดการส่งตัวชาวกัมพูชาที่เจ็บป่วย มารักษาตัวที่โรงพยาบาลในประเทศไทย ที่มีศักยภาพในการรักษาที่สูงกว่า นั้นเป็นที่ชัดเจนว่า ฮุนเซน และฮุนมาเนต ไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของประชาชนชาวกัมพูชาเลย
หากพิจารณาอย่างรอบคอบทั้ง 6 มาตรการ จะพบว่า กลุ่มธุรกิจกาสิโน ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์มหาศาลของตระกูลฮุน แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย มาตรการทั้ง 6 มาตรการ จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ฮุนเซน และฮุนมาเนต พยายามที่จะสร้างข้อพิพาทระหว่างประเทศขึ้นมา โดยเอาชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชนเพื่อนร่วมชาติของตนมาเป็นเครื่องสังเวย
ผมจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล และท่านนายกฯ แพทองธารว่า มาตรการตอบโต้ที่รัฐบาลไทย ควรจะใช้รับมือกับฮุนเซน และฮุนมาเนต เพื่อจูงใจให้รัฐบาลกัมพูชา พร้อมที่จะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยเงื่อนไขที่สมเหตุสมผล ควรจะต้องเน้นไปที่มาตรการที่พุ่งเป้าไปที่ “กลุ่มผลประโยชน์ของตระกูลฮุน” และความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มทุนกาสิโนกัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่ม LYP Group กับกลุ่มทุนไทย และนักการเมืองไทย
นอกจากนี้เพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินมาตรการรับมือกับข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ได้อย่างต่อเนื่อง นายกฯ แพทองธาร ควรพิจารณาอนุมัติงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น เพื่อดำเนินมาตรการชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนผู้อยู่อาศัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาตรการช่วยเหลือภาระดอกเบีั้ย มาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ และมาตรการสนับสนุนการปรับตัว และการหาตลาดใหม่ ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ผมต้องย้ำไว้ตรงนี้ว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้น รัฐบาลมีความจำเป็นต้องสื่อสารทางการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อทั้งประชาชนชาวไทย ประชาชนชาวกัมพูชา และนานาอารยประเทศ กระทรวงการต่างประเทศควรต้องเร่งชี้แจงกับสหประชาชาติ อาเซียน และสถานทูตต่างๆ เพื่อยืนยัน่ว่าประเทศไทย ไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรใหม่ หรือหยิบยื่นข้อเสนอใด ที่ไม่สมเหตุสมผลต่อรัฐบาลกัมพูชาเลย รัฐบาลไทยยังคงยึดมั่นใน MOU43 ซึ่งเป็นข้อตกลงที่รัฐบาลไทย และรัฐบาลกัมพูชา ได้สมัครใจลงนามร่วมกันมาโดยตลอด และไม่เคยละเมิดข้อตกลงดังกล่าวเลย ที่ผ่านมามีแต่ฝั่งกัมพูชาที่เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง MOU43 มาแล้วกว่า 400 ครั้ง โดยที่รัฐบาลไทยอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด
และต้องย้ำว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาเองที่ละเมิดข้อตกลง MOU43 รัฐบาลไทยไม่ได้มีข้อพิพาทใดต่อประชาชนชาวกัมพูชา ซึ่งประชาชนชาวกัมพูชา ควรจะต้องไตร่ตรองว่าทุกมาตรการที่รัฐบาลของกัมพูชาดำเนินการนั้นได้คำนึงถึงความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของชาวกัมพูชา หรือไม่
สำหรับการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ผมเชื่อว่ายากที่จะบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม แต่เป็นเวทีที่มีความหมายอย่างมากที่จะยืนยัน “ความชอบธรรม” ของประเทศไทย ว่าเราไม่ได้ และไม่เคยละเมิดข้อตกลง MOU43 แต่อย่างใด และยังคงยึดมั่นใน MOU43 เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธาร และท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม สามารถเตรียม Speech เอาไว้ล่วงหน้าได้เลย และคุณมาริษ รมว.ต่างประเทศ ก็สามารถเตรียมสารในการสื่อสารกับทั้ง UN อาเซียน และบรรดาทูตนุทูตต่างๆ เอาไว้ได้เลยเช่นกัน
ผมคาดการณ์ในเบื้องต้นว่า ฮุนเซน และฮุนมาเนต น่าจะสร้าง Story เตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อแถลงหลังการประชุม JBC โดยน่าจะเล่นบทเหยื่อฟ้องชาวโลกว่า รัฐบาลไทย เป็นประเทศใหญ่ที่เป็นฝ่ายรังแก และสร้างภาพความเป็นวีรบุรุษให้กับคณะที่มาเจรจากับผู้แทนไทย
ในขณะที่ประเทศไทย ผมยืนยันว่า แม้ว่าจะมีข้อท้วงติงอย่างไร ณ วินาทีนี้ เราควรต้องให้กำลังใจท่านทูต ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัคราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ที่เป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจา JBC ในครั้งนี้ ซึ่งท่านน่าจะมีข้อมูล และมีความเข้าใจการเมืองของประเทศกัมพูชา เป็นอย่างดี
ผมคิดว่าเราต้องอ่านเกมการเมืองของฮุนเซน และฮุนมาเนต ให้ขาด ในขณะที่เขาพยายามสร้างภาพความเป็นวีรบุรุษให้กับคณะเจรจาของฝั่งกัมพูชา แต่เรากำลังดิสเครดิต และดูแคลนคณะเจรจาจากฝั่งไทยด้วยกันเอง ผมคิดว่าถ้าเรายังคงทำกันแบบนี้ เราจะเดินเข้าเกมที่ฮุนเซน และฮุนมาเนตวางอุบายเพื่อลดทอนความชอบธรรมของรัฐบาลไทย ในการเจรจา JBC ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศเลย
ก็ต้องย้ำตรงนี้อีกครั้งครับว่า “เราต้องไม่ทำอะไร ที่ทำให้ฮุนเซน และฮุนมาเนต ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ” ผมย้ำมาหลายครั้ง และยังคงต้องย้ำอีกครั้งในโพสต์ๆ นี้ครับ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS