ตำรวจจับคนจีน 6 คน ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมขบวนการนำพา ใช้ รถยนต์ 2 คัน จับได้ที่ อยุธยา
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา)
ร่วมกันจับกุม ขบวนการขนคนจีนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผู้ถูกจับรวม 6 คน ดังนี้
1. นายจิตติกร แซ่จ้าง อายุ 31 ปี
2. นายลี เจียง พิง (MR.LI JIANG PING) อายุ 29 ปี สัญชาติ จีน
3. นายเพิง โย เคียว (MR.PENG YOU QIEAN) อายุ 28 ปี สัญชาติ จีน
4. นายเหมิง จี ยู (Mr.MENG JI YU) อายุ 24 ปี สัญชาติ จีน
5. นายหวง เลอ จาง (Mr.HUANG LE ZHANG) อายุ 32 ปี สัญชาติ จีน
6.นายหลิว เลอ ชิง (Mr.LIU LE QING) อายุ 44 ปี สัญชาติ จีน
โดยกล่าวหาว่า
ผู้ถูกจับที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย
ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ผู้ถูกจับที่ 2 – 3 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ผู้ถูกจับที่ 4 – 6 “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
พฤติกาณ์ ได้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา), บูรณาการ สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
จนกระทั่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ออกสำรวจตรวจสอบเส้นทาง พบรถยนต์กระบะแคป ต้องสงสัย 2 คัน คันที่ 1 รถยนต์ กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว เพชรบูรณ์ คันที่ 2 รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา พระนครศรีอยุธยา
ขับขี่มาด้วยความเร็ว ลักษณะติดฟิล์มมืดทึบ ขับขี่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ทำให้ต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง
รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.3-4
ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) ในพื้นที่ ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ
พบว่าคันที่ 1 รถยนต์ กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน เพชรบูรณ์ มี นายจิตษานนท์ฯ อายุ 29 ปี เป็นคนขับ ภายในรถมีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง
หรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นตรวจสอบพบ รายที่
1 ชื่อ เหมิง จี ยู อายุ 24 ปี
มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567
และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต
เป็นเวลา 117 วัน และ
ราย ที่ 2 ชื่อ หวง เลอ จาง อายุ 32 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567
ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 123 วัน และ
รายที่ 3 ชื่อ หลิว เลอ ชิง
อายุ 44 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 117 วัน
คันที่ 2 รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา มี นายจิตติกรฯ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย เป็นคนขับ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์พบว่ามีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติจำนวน 4 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง
เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 2 คนและตรวจสอบพบว่า อีก 2 คน
มีนาย ลี เจียง พิง อายุ 29 ปี สัญชาติ จีน และ
นายเพิง โย เคียว อายุ 28 ปี สัญชาติ จีน เป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถาม นายจิตติกรฯ คนขับ ให้การยอมรับว่า ได้รับการติดต่อจากเพื่อน (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับคนจีนมาจาก จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางกรุงเทพมหานคร ได้ค่าจ้างจำนวน
6,500 บาท จึงมาด้วยกันพร้อมกัน 2 คัน โดยรับว่าได้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวพร้อมอีกคัน
บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทาง
หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจ
ทางหลวงเรียกตรวจสอบ
คันที่ 1 สอบถาม ชาวจีน ผ่านล่ามแปลภาษาจีนให้การยอมรับว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาทั้ง 3 คน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
คันที่ 2 สอบถาม ชาวจีน ให้การยอมรับว่าผ่านล่ามแปลภาษาจีน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา
เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหา และควบคุมตัวพร้อมของกลาง รถทั้ง 2 คัน นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.ตม.3 ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS