ต้องเอา เขมร เด็ดขาด!! ลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดในไทย เป็นเจตนาฆ่าทหารไทย

จตุพร จี้ ป้องทหารไทยเสียขาที่ 8 ระบุลอบวางระเบิดชายแดนไทยเท่ากับเจตนาฆ่า ติงผู้นำกุมสันติภาพจนโง่เขลา อยู่อย่างไร้เกียรติ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน”ขาที่7″ โดยเชื่อว่า คำพูดของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาค 2 ระบุมีคนสั่งหยุดยิง แต่ตนเองไม่หยุด เพราะต้องการเอาดินแดนไทยกลับคืนมาจากกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม แม้ล่าสุดอดีตแม่ทัพภาค 2 ไม่ต้องการขยายเรื่องให้ใหญ่โดย โดยเปลี่ยนคำพูดจากคนสั่งการเป็นการหารือนั้น แต่ตนเชื่อเรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้ เพราะการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ไทยเสียดินแดนและกัมพูชารุกลอบวางระเบีด ส่วนพวกการเมืองยังไม่เกิดสำนึกเรื่องชาติ เรื่องเสียดินแดน กลับรอเล่นงานอดีตแม่ทัพภาค 2

อีกทั้งกล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมน่ากังวล เมื่อ พล.ท.บุญสิน ได้รับความนิยมและเกษียณราชการแล้ว แต่พวกการเมืองรอจังหวะเล่นงาน กระทั่งทหารไทยลาดตระเวนเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด 1 นายและบาดเจ็บ 1 นายเมื่อ 10 พ.ย.นี้ พวกการเมืองจึงโถมขย้ำทันที

“วันนี้เป็นโอกาสที่ดี เมื่อกัมพูชามาวางระเบิดในราชอาณาจักรไทย ห่างจากชายแดน 1 กม. นั้น ประเทศไทยควรใช้เหตุการณ์นี้ไปเอาปราสาทตาควายกลับคืนมา โดยทหารไทยเสียขาที่ 7 แล้วเราจะปล่อยปละให้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์นี้ได้อย่างไร”

นายจตุพร กล่าวว่า การลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทย เป็นเจตนาฆ่าทหารไทย มันเกินความรู้สึกจะรับกันไหว ดังนั้น ใครมีหน้าที่อย่างไร และหวังว่า การตัดสินใจของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่จะประชุมกันในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ต้องเป็นไปด้วยทิศทางที่ดีและมีผลในทางปฏิบัติ หากประชุมแล้วไม่มีผลอะไรก็ตัวใครตัวมัน

“การเหยียบทุ่นระเบิดเสียขาที่ 7 นั้น คนไทยจะอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ได้ หรือเราจะอยู่อย่างไร้เกียรติ เกาะกุมสันติภาพจนโง่เขลา เดี๋ยวก็มีขาที่ 8 ขาที่ 9 ขาที่ 10 กับประเทศที่อ้างว่าใหญ่กว่า พร้อมกว่า แต่หน่อมแน้ม มันก็ไม่มีความหมายใดๆ”

พร้อมทั้งกล่าวว่า ถ้าแก้ปัญหาโดยไม่รบก็มองไม่เห็นทางแล้ว และหากวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลขณะนั้นไม่เซ็นให้หยุดยิงทันทีไว้ สถานการณ์วันนี้จะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่วันนี้เราเหมือนเบี้ยล่างเพราะปราสาทตาควายดินแดนไทยอยู่ในการยึดครองของกัมพูชาแล้ว ส่วนไทยหวังแต่เจรจา เขาคงไม่คืนให้อย่างดีๆ

ส่วนการปราบแก๊งสแกมเมอร์ นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าปราบปรามได้เท่ากับเป็นการรักษาประเทศให้รอดพ้นจากถูกแก๊งหลอกลวงใช้เงินซื้อประเทศในช่วงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอย่างช้าสิ้นเดือน ม.ค.ปีหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว จึงหวังว่าจะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ จะจัดการให้สิ้นซาก และประชาชนพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่

ประเทศไทยต้องมาก่อน

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS