Connect with us

News

หนุ่มนักธุรกิจเล่นฟิตเนสดังบนห้าง ถูกงัดล็อกเกอร์สูญ 10 ล้าน

Published

on

หนุ่มนักธุรกิจ สุดช้ำเล่นฟิตเนสดังบนห้างย่านงามวงศ์วาน ถูกมือดีฉกทรัพย์สินมีค่าในล็อกเกอร์ สูญหายกว่า 10 ล้าน เจ้าตัวเตรียมฟ้องเจ้าของสถานที่ชดใช้ค่าเสียหาย

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายสาธิต (สงวนนามสกุล) หนุ่มนักธุรกิจชื่อดัง ถูกมือดีฉกทรัพย์สินมีค่า ขณะเก็บไว้ในล็อกเกอร์ตอนออกกำลังกายที่ฟิตเนสชื่อดังบนห้างสรรพสินค้าย่านงามวงศ์วาน ซึ่งมีเสียทรัพย์สูญหายไปกว่า 10 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา

นายสาธิต เล่าว่า ตนเองชื่นชอบการออกกำลังกาย หลังทำงานเสร็จมักจะแวะไปออกกำลังกายเล่นฟิตเนสบนห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเป็นประจำ เพราะได้สมัครเป็นเมมเบอร์ไว้ โดยการเล่นฟิตเนส ตนเองมักจะถอดเก็บสิ่งของมีค่ารวมกันไว้ภายในกระเป๋าสะพาย ก่อนนำไปเก็บไว้ภายในล็อกเกอร์ของฟิตเนสดังกล่าว

จากนั้นหลังออกกำลังกายเสร็จ ประมาณ 2 ชม. หรือ เวลา 20.00 น. ตนเองได้มาเปิดล็อกเกอร์ หมายเลข 017 เพื่อจะหยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่เก็บไว้ภายในล็อกเกอร์ตามปกติ แต่ต้องตกใจและใจหายวูบ เมื่อเปิดดูแล้วพบกับความว่างเปล่าอยู่ด้านใน เนื่องจากกระเป๋าใบใหญ่ทั้งใบได้หายไปแล้ว ยังนึกเลยว่า เปิดล็อกเกอร์ผิดตู้ ผิดเบอร์หรือเปล่า จึงยืนตรวจสอบดูอย่างละเอียดอีกครั้ง จนแน่ชัดแล้วว่า กระเป๋าพร้อมของมีค่าได้ถูกโจรมือดีลักทรัพย์ไปอย่างแน่นอน

ภายในกระเป๋าสะพายมีทรัพย์สินที่หายไป อาทิ พระเครื่อง สมเด็จวัดระฆังเลี่ยมทอง หลวงพ่อโตเลี่ยมทอง ครุฑเลี่ยมทอง พร้อมสร้อยทอง นาฬิกาโรเล็กซ์ฝั่งเพชร เลสข้อมือฝังเพชร และแหวนเพชร พวงกุญแจรถใส่ห้อยไว้กับที่ห้อยหลุยส์วิตตอง สิ่งของที่หายไปหลายรายการ รวมกันมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งไม่น่าเชื่อทั้งที่ตนเองได้เก็บทรัพย์สินมีค่าใส่กระเป๋าสะพายเอาไว้ในล็อกเกอร์ที่คิดว่าปลอดภัยเป็นอย่างดีสำหรับลูกค้า แต่กลับถูกขโมยไปทั้งกระเป๋าได้อย่างไร้ร่องรอยงัดแงะใดๆ

ต่อมาตนเองจึงรีบแจ้งทางพนักงานของสถานที่ออกกำลังกายดังกล่าว แล้วรีบโทรศัพย์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ซึ่งที่ประตูตู้ล็อกเกอร์กลับไม่พบร่องรอยของการงัดแงะ คาดว่าคนร้ายน่าจะอาศัยช่วงที่ตนไปออกกำลังกายใช้กุญแจสำรองอีกดอกมาไขเปิดเอาทรัพย์สินของมีค่าไปทั้งกระเป๋าเลย ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ของมีค่าของตนเองหายไปอยู่ล็อกเกอร์เดียว

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามทางพนักงานดูแลสถานที่บอกเพียงว่า จะทำการตรวจสอบให้ โดยในจุดนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด CCTV ติดตั้งบริเวณหน้าล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของมีค่าของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน จุดอื่นมีหมด จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี จนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ติดต่อกลับมาเลย และได้ทราบข้อมูลมาว่ามีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการฟิตเนสนี้ ของหายไปหลายรายแล้ว หวั่นว่าผ่านไปหลายวันเคสของตนเองก็อาจเงียบหายเข้ากลีบเมฆเหมือนกับรายอื่นๆ ซึ่งยังสงสัยว่ามีคนรู้ช่วงเวลา และตู้ที่ใช้เก็บของของตนได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนเองได้ปรึกษากับทางครอบครัวและทนายความ เพื่อดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่สูญหายไปกับทางเจ้าของฟิตเนสแห่งนี้อยู่

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: