พงศ์พรหม เผย ดราม่าชูนิ้วกลางที่สาธารณะ-นักวิ่งขวางถนน ฟาด สังคมไทย วุฒิภาวะต่ำ คิดถึงแต่ตัวเอง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า
ปกติไม่โพสต์อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องดราม่า
แต่เจอ 2 เรื่องที่น่าสนใจ ที่สะท้อนว่าสังคมไทยยังมีปัญหาทั้งกติกาการอยู่ร่วมกัน ไปถึงการคิดถึงแต่สิทธิตัวเอง
เรื่องแรก
มีคนไปจองรถยี่ห้อนึง แต่ตอนถ่ายรูปพยายามทำเท่ห์ด้วยการ “ยกนิ้วกลาง”
ยกนิ้วกลางในภาษานานาชาติ แปลว่าของลับผู้ชายแบบหยาบๆ ล้อเล่นในหมู่เพื่อนได้ แต่ไม่ใช่ public ทางฝ่ายบริหารเค้าขอให้ช่วยลบรูป สรุปว่าคนโชว์นิ้วกลางไปโกรธบริษัทรถยนต์ กลายเป็นดราม่าใหญ่โต ถอนจองเค้าเรียบร้อย
เรื่องนี้พาลทำให้ผมคิดไปถึง “แฟชั่นรูปนาซี” ที่วัยรุ่นไทยนิยมเอามาสกรีนทำเสื้อใส่เท่ห์ๆกันโดยไม่รู้ที่มาที่ไปว่า ทำว่านาซี แปลว่าชาติอารยันผิวขาว ตาฟ้า ที่เหยียดคนเอเชีย รวมถึงฆ่าคนตายไปกว่า 50 ล้านคน
ทั้ง “นิ้วกลางเท่ห์ๆใน public” จนถึง “เสื้อนาซี” ทำให้เห็นจริงๆว่าวุฒิภาวะทั้งสติปัญญา ความรู้ของสังคมไทยยังด้อยเหลือเกิน เราจึงถูกต่างชาติดูถูกอย่างสม่ำเสมอ
อีกเรื่องคือดราม่านักวิ่ง
เกิดจากการรณรงค์ของนักวิ่งกลุ่มหนึ่งที่พยายามรณรงค์ว่าเวลาวิ่ง อย่าวิ่งเป็นแผงขวางทาง เพื่อจะให้เพื่อนนักวิ่งกลุ่มอื่นสามารถแซงได้
คราวนี้เกิดดราม่าอีก
คนที่วิ่งช้า ก็บอกว่าทีพวกวิ่งเร็ววิ่งเป็นกลุ่มทำไมทำได้ คนวิ่งเร็วก็เคยวิ่งช้ามาก่อน แต่พอวิ่งเร็วก็ไม่เห็นหัวคนวิ่งช้า คราวนี้ก็เกิดการโพสต์กระทบกันไปมา มุมผมเองที่วิ่งช้า 80% วิ่งเร็ว 20% (ช้า 4 วัน เร็ว 1 วัน) อยากจะแชร์ว่า ปัญหาจริงๆของการวิ่ง ไม่ต่างอะไรกับการไร้ความรับผิดชอบบนถนนเลยครับ
จริงๆจะขับรถ จะปั่นจักรยานที่ Sky Lance หรือ วิ่งสวนเบญจกิติ หากเราใช้กฏเดียวกัน ทุกอย่างก็จบ
เวลาผมวิ่งเพซช้า หรือ แม้แต่เร็ว แต่เหลือบตาเห็นคนเร็วกว่ามา ผมจะชิดซ้ายเสมอไม่ว่าจะช้าชิดซ้าย หรือ เร็วแซงคนอื่น ผมก็จะแซงแล้วชิดซ้ายทุกครั้ง ช้าชิดซ้าย เร็วแซงขวาแล้วกลับซ้าย
ง่ายๆแค่นั้น
พวงมาลัยซ้ายก็กลับกัน กฏเดียวกันทั่วโลกแบบคนที่เจริญแล้ว หากเรามีกฏกติกาของ “มนุษย์ผู้เจริญ” ในโลกง่ายๆร่วมกันแบบนี้
จะดราม่าว่าการชูนิ้วกลางในที่สาธารณะเป็นสิทธิของฉัน (หากเป็นในสิงคโปร์โดนจับไปแล้ว) หรือ ทะเลาะกันเรื่องวิ่งขวางระหว่างคนวิ่งช้า วิ่งเร็ว
ก็จะไม่เกิดขึ้นครับ
นี่ไม่นับการ “merge lane” นะครับ 2 เลนมา 1 ทั่วโลกจะสลับเข้า ส่วนคนไทยแม่งแย่งกันเข้า ไม่ชน ก็ด่า ก็ลงมาต่อย เพราะชอบใช้แต่สิทธิ แต่ไม่หาความรู้ ไม่คิดรับผิดชอบกันยังไงหละครับ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS